หน้าเว็บ

Sunday, January 1, 2017

あけおめ御健康おいのりしています (Happy New Year)+SPECIAL HNY





Title: あけおめ御健康おいのりしています (Happy New Year)+SPECIAL HNY
Fandom: 恶魔幸存者; Devil Survivor the animation (2+1)
Pair: Hotsuin Yamoto x Kuze Hibiki (Ft. Naoya x Minegishi Kazuki)
Gerne: PG-13
Warning: คนแต่งเบลอมาก โปรดให้อภัย (_ _)
Story: เห็นไหมฮะ ว่ามีคู่ไหนมาแจม??!! (>.<) [มีใครทายถูกไหมว่ามาจากเรื่องไหนเอ่ย?!]

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




あけおめ御健康おいのりしています
(สุขสันต์วันปีใหม่)






07.41 AM
ตี๊ดๆ
เสียงโทรศัพท์ที่ชาร์ตแบตไว้ตรงหัวโต๊ะส่งเสียงรบกวนในยามเช้า คนที่นอนหลับเป็นตายชนิดลืมแม้แต่จะถอดเสื้อนอกเพราะความเหนื่อยล้าจัดจากการโหมทำงานภาคสนามหนัก กว่าจะได้เหยียบเข้าห้องตนเองก็หกโมงเช้าจึงค่อยๆ ผงกหัวสีดำยุ่งๆ ขึ้นมาจากหมอนนุ่ม ยื่นมือไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดดูข้อความอย่างสะลึมสะลือ
หืมตาฟ้าง่วงงุนเปิดกว้างเล็กน้อย ขณะไล่มองข้อความนับสิบที่พร้อมใจกันระดมส่งมาจากไดจิ อิโอะ และคนรู้จักคนอื่นๆ  
อะไรเนี่ย
โทรศัพท์ในมือสั่นกึก พอดีกับที่หน้าจอแสดงผลสายเข้าแบบสั่นซึ่งฮิบิกิเป็นคนตั้งระบบเอาไว้ และลืมปลดออกเมื่อคืน––– แหงล่ะ ลองระหว่างทำภารกิจลอบจู่โจม กำลังอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดขั้นวิกฤต แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นสิ––––––––– คงได้หัวเราะไม่ออกแน่
ฮัลโหล
/ฮิบิกิ!! นายไม่รับสายฉันเลย! ฉันโทรไปเกือบจะสิบรอบแล้วนะ! จริงๆ โทรไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วด้วย/ เสียงโวยวายเต็มไปด้วยพลังและความกระฉับกระเฉงกระตุ้นให้สมองฮิบิกิที่ยังทำงานไม่สมบูรณ์ต้องประมวลผลก่อนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า หัวมึนๆ  
โทษทีๆ ชาร์ตแบตอยู่น่ะ
/อะไรกัน นายยังไม่ตื่นเหรอ ปกตินายไม่ใช่คนตื่นสายนา/ ไดจิบ่นๆ เพราะปกติมันต้องเป็นเขาสิที่นอนให้ตะวันส่องตูด อย่างฮิบิกิเนี่ยนะจะตื่นสาย? โลกใบนี้นับวันชักพิลึกขึ้นเรื่อยๆ แล้วนา
ทำงานโต้รุ้งน่ะ โทษที
/โคตรโหด/ ฮิบิกิได้ยินเสียงไดจิแค่นหัวเราะแห้ง /แต่อีกไม่นาน ฉันก็คงได้ฤกษ์ทำการบ้านโต้รุ่งแบบนายแล้วล่ะ/  
ฮิบิกิหัวเราะเสียงนุ่มงั้นก็ขอแสดงความยินดีไว้ล่วงหน้าเลยแล้วกัน
/อา–––– แสดงความยินดี เออ ใช่!/ น้ำเสียงกระตุกไปแว่บของไดจิ ทำให้ฮิบิกิรู้ว่าประเด็นหลักที่ทำให้ไดจิโทรมาหาเขาแต่เช้านี้จะมาแล้ว  
/สุขสันต์วันปีใหม่นะฮิบิกิ! ขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง! อายุยืน และมีความสุขมากๆ!/
คำพูดที่ไม่เคยคิดฝันจากไดจิ ทำให้ฮิบิกินิ่งไปนานเกือบห้าวินาที ก่อนจะตั้งตัวได้หือ? วันปีใหม่?” สมองที่ประมวลผลช้ากว่าวันยามปกติทำงานหนักจนรู้สึกมึนๆ หลังจากนั้นสองวิ ฮิบิกิก็ร้องอ่อในใจ
วันนี้–––––––– 1 JANUARY นี่เนอะ–––––––––––––––––––––––
/อะไรกัน! นายลืมไปงั้นหรอเนี่ย!/ น้ำเสียงตกใจปานรู้ว่าโลกจะแตกในวันพรุ่งนี้ทำให้ฮิบิกิยิ้มแหย เอ่ยแก้ตัวไปด้วยน้ำเสียงฝืด
ก็บอกแล้วว่างานยุ่ง
/แล้วเพื่อนๆ ที่ทำงานนายเขาไม่คุยกันบ้างเลยรึไง รู้ไหมที่มหาลัยก่อนหนึ่งสัปดาห์จะถึงวันปีใหม่เขาก็ถามกันให้แซ่ดแล้วว่าจะไปเที่ยวไหนกัน?! นายคงไม่ใช่พวกโดนสังคมทอดทิ้งใช่ไหม?!!/
ก็–––– คนอื่นก็ยุ่งเหมือนกันจะให้เขาบอกไดจิไปได้ไงว่าแค่จะเอาเวลาอื่นไปคิดนอกจากงานก็ยังแทบไม่มี
/ให้ตายซี่ เป็นที่ทำงานที่แย่มาก!!/
ฮิบิกิหลุบตา ยิ้มจางๆไม่ถึงขนาดนั้นหรอกหรืออาจจะแย่กว่า ถ้าไดจิได้รู้ว่าจริงๆ แล้วเขาทำงานอะไรอยู่
JP’s–––––– มันอาจจะเป็นที่ทำงานที่ดูแย่ในสายตาของคนอื่น เพราะมันเป็นที่ทำงานที่เสี่ยงอันตรายแถมตัวงานบางส่วนก็ยังเกี่ยวข้องกับความลับระดับประเทศ แต่ว่าถึงมันจะแย่สักเท่าไหร่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ยอมสละตนเอง ทุ่มเทหยาดเหงื่อของพวกเขาเพื่อรักษาสิ่งดีๆ เอาไว้มากมาย เมื่อเห็นความทุ่มเทแบบนั้น จะให้ฮิบิกิเรียกว่ามันแย่ได้ยังไง ที่สำคัญนี่คือที่ทำงานของเขา คือที่ที่เขาตัดสินใจเลือกเอง ดังนั้นในเมื่อเขาเป็นคนตัดสินใจ เขาก็เลยไม่เคยคิดว่ามันแย่เลยสักนิด
จะว่าไป ปกติแล้วหมอนั่น วันปีใหม่ได้ไปไหนหรือเปล่านะ
/แล้วนี่นายไม่คิดหยุดบ้างเหรอ? ว่าจะชวนไปเดทสักหน่อย/
"หยุดได้ที่ไหนเล่า ต้องทำงาน" ฮิบิกิขมวดคิ้ว แล้วชวนไปเดทที่ว่านี่หมายความว่าไง
/แค่พูดเล่นๆ จะเก็บอะไรมาคิดจริงจัง/ ไดจิงุบงิบ แล้วอธิบาย /ก็ปกติปีใหม่ทุกปี บ้านฉันกับนายก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว เราก็มักจะนัดกันไปเที่ยวนู้นนี้สองคนนี่ เห็นมะ ไม่ต่างอะไรกับการเดทเลยสักนิด/
มันก็ใช่––– ฮิบิกิรู้สึกเหมือนมันมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่รู้ว่ามันผิดตรงไหน และในเมื่อไดจิเรียกว่าเดทได้–––– ก็––– คงต้องเรียกว่าเดทล่ะมั้ง แต่โทษที ฉันไปไม่ได้หรอก งานต้องมาก่อน ปีหน้าค่อยแก้ตัวใหม่
/ชิ อะไรๆ ก็มีแต่งาน/ ปลายสายเอ่ยอย่างงอนๆ ให้ฮิบิกินึกขำ
"ไม่เหมือนนาย อะไรๆ ก็มีแต่อิโอะ––––––"
/หุบปาก! ไปนอนไป! ตอนนี้นายอาการหนักสุดๆ ไปเลย รู้ไหม!/ ไดจิโวยวายด้วยใบหน้าแดงก่ำเพราะเขินจัดกับการถูกจี้จุดอ่อนแก้ไม่หายของตนแบบนี้ แม้ในใจจะแอบนึกกังวลเพื่อนสนิทตนเองว่ากำลังฝืนอยู่รึเปล่าก็เถอะ
เพราะตอนนี้เขากับฮิบิกิไม่ได้เจอหน้ากันบ่อยแบบเมื่อก่อน ถึงแม้จะติดต่อกันบ่อยทางไลน์ เฟต ไม่ก็โทรศัพท์บ่อย แต่ความรู้สึกตอนอ่านแค่ข้อความ ไม่ก็ฟังแค่เสียงมันย่อมต่างกับความรู้สึกตอนเจอกันซึ่งๆ หน้าอยู่แล้ว และกว่าเขากับฮิบิกิจะได้เจอกันอีกทีก็ราวๆ สองสัปดาห์หน้า ซึ่งถ้าให้ไปบอกสุขสันต์วันปีใหม่ตอนนั้น บรรยากาศก็กร่อยหมดกันพอดี
อีกอย่าง อย่างน้อยในฐานะเพื่อนสนิท ไดจิก็อยากจะเป็นคนแรกที่อวยพรให้ฮิบิกิด้วย ถึงจะไม่ได้เจอหน้ากัน แต่แค่ขึ้นชื่อว่าเพื่อนสนิทอวยพรให้เป็นคนแรก ก็ถือว่าไม่เลว
ฮิบิกิหัวเราะแผ่ว อา นอนก็นอน Happy new year เหมือนกัน
ปลายสายตัดไป ฮิบิกิก็กลับไปซุกหน้าลงกับหมอนอีกครั้ง ในมือยังกำโทรศัพท์ไว้อยู่
วันนี้มีงานตอนช่วงบ่าย––––– ถ้าอย่างนั้นนอนต่อคงไม่เสียหายหรอก ใช่ไหม
เปลือกตาหนักอึ้งค่อยๆ ขยับปิดบังดวงตาสีฟ้าใส เพียงเวลาไม่ถึงครึ่งวินาที ฮิบิกิที่เหนื่อยล้าจัดจากภารกิจก็จมดิ่งสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
–––––ซึ่งถ้าเขาทนเปิดตานานกว่านี่อีกสักสามนาที เด็กหนุ่มก็คงจะได้เห็นประตูห้องของตนถูกปลดล็อคจากด้านนอก และร่างโปร่งของใครสักคน ที่ถือวิสาสะเข้ามาในห้องราวกับว่าตนเป็นเจ้าของ

11.02 AM
สี่ชั่วโมงผ่านไปกับเวลานอนเต็มอิ่ม ฮิบิกิลืมตาขึ้นอีกครั้งด้วยสมองที่แม้จะยังสับสนอยู่บ้าง แต่ก็ดีกว่าช่วงเช้ามาก ทั้งในเรื่องของร่างกายที่เริ่มกลับมามีเรี่ยวแรง สมองที่ตื่นตัวและน้ำหนักเบาของผ้าแต่กลับให้ความรู้สึกอุ่น––––––
หืม? เบาแต่อุ่น
ฮิบิกิชันตัวลุกนั่ง ตอนนั้นเองที่เขาสังเกตเห็นว่าเสื้อนอกของตนได้ถูกถอดออกไปวางพาดไว้กับเก้าอี้ที่โต๊ะทำงาน อุณหภูมิเย็นจัดในห้องทีแรกถูกปรับให้เหมาะสม ผ้าห่มเช็ดตัวเนื้อเบาที่เอามาคลุมแทนผ้าห่มชั่วคราว
ตำแหน่งของมันผิดไปจากเดิมหรือเปล่า––––?
แม้จะอ้างว่าฮิบิกิตื่นขึ้นมารับโทรศัพท์ช่วงเจ็ดโมง เลยอาจละเมอถอดเสื้อเพราะความร้อน แต่เสื้อคลุมเขามันก็คงไม่มีทางถูกเอาไปวางพาดอย่างเป็นระเบียบตรงเก้าอี้ และคงไม่มีทางที่ผ้าเช็ดตัวในห้องน้ำจะลอยมาห่มตัวเขาแน่ ไหนจะโทรศัพท์ที่ฮิบิกิจำได้ว่าเขาผล็อยหลับไปโดยที่ยังกำมันอยู่ ไม่ใช่กลับไปวางไว้ข้างหัวเตียงแบบนี้
นี่คงไม่ใช่–––––––––––––––––
ครื่น ครื่น
โทรศัพท์ข้างหัวเตียงสั่น
ไม่ว่าจะด้วยลางสังหรณ์หรือการคาดเดา ที่สั่งให้ฮิบิกิกดรับสายและพูดไปโดยไม่แม้แต่จะมองชื่อคนโทรมา
"แอบเข้ามาในห้องฉันเหรอ ยามาโตะ?"
/ตราบเท่าที่ห้องนายคือทรัพยากรของ JP's ฉันที่เป็นเจ้าของก็มีสิทธิทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น/ เสียงเย็นตอบกลับมาแบบไม่ลังเลเลยสักนิด ทำให้ฮิบิกิแค่นยิ้มจาง––––– ช่างเผด็จการจริงๆ
"ถึงนายจะเป็นผบ. ที่นี่ แต่ฉันในฐานะเจ้าหน้าที่ JP's ก็มีสิทธิ์ที่จะสู้เพื่อปกป้องสิทธิของตนเองใช่ไหม?" ฮิบิกิพูดแหย่ ก่อนหัวเราะเบาๆ "อย่างนี้ฉันแจ้งตำรวจจับนายก็ยังได้เลยนะ"
/ข้อหาอะไร/
"ก็–––ลักลอบเข้ามาในห้องของฉัน โดยไม่ได้รับคำขออนุญาต"
ยามาโตะขมวดคิ้ว /ไร้สาระ/
ฮิบิกิพ่นลม ว่าแล้วว่าต้องโดนคำนี้ ก่อนดวงตาเจือแววขี้เล่นทอประกายวาวเรือง "มีปัญหาอะไรรึเปล่า"
ฮิบิกิคิดว่าเรื่องที่ยามาโตะโทรมาน่าจะเกี่ยวข้องกับงานภาคสนามของเขาเมื่อคืน
เมื่อคืน ฮิบิกิต้องลอบเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงเพื่อตรวจสอบความผิดปกติสามจุด ซึ่งเป็นบริเวณที่มีคลื่นแปรปรวนระหว่างมิติ เป็นอาณาเขตอันตรายเพราะมีความเป็นไปได้ว่าหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดรอยแยกระหว่างห้วงมิติ และมอาจทำให้เกิดเป็นเส้นทางให้ปีศาจลุกล้ำเข้ามาในโลกได้
บริเวณจุดแรกกับจุดสามไม่มีอะไรหรอก แต่จุดสองนี่แหละปัญหาใหญ่สุด เพราะจู่ๆ ค่าความแปรปรวนที่อยู่ในระดับปานกลางในทีแรกก็พุ่งขึ้นสูงทะลุเพดานจนทำให้เกิดการฉีกขาดของมิติ กลายเป็นช่องว่างให้ปีศาจอัญเชิญทะลักออกมา ฮิบิกิที่มีหน้าที่แค่ตรวจสอบพื้นที่ในทีแรกจึงต้องออกโรงเก็บปีศาจทุกตนที่ทะลักออกมาจากช่วงรอยแยก
แม้จะเป็นปีศาจอัญเชิญระดับต่ำ แต่เล่นโผล่มาทีเดียวพร้อมกันหลายสิบตัวรวดภายในไม่ถึงครึ่งวิก็ทำให้ฮิบิกิรับมือไม่ไหว เด็กหนุ่มเลยต้องฝืนคำสั่งเอาทั้งเบี๊ยกโกะและโซซาคุออกมาช่วยจึงจะเก็บหมด แล้วจากนั้นก็ต้องกะจังหวะใช้อำนาจของชัคโคในการรักษาค่าความเสถียรและซ่อมแซมรอยฉีกขาด ซึ่งกว่าจะจัดการได้ นับๆ แล้วเมื่อคืนฮิบิกิจัดการปีศาจไปเกือบพันตัวเพียงลำพัง และใช้เวลาประมาณสามชั่วโมงในการซ่อมแซมรอยแยก
โชคยังดีที่เมื่อคืนกล้องติดตัวของทาง JP’s มันพังไประหว่างการต่อสู้ และกล้องวงจรปิดบริเวณนั้นก็ใช้การไม่ได้หมด ความลับที่เขาสามารถอัญเชิญปีศาจตนอื่นได้นอกจากเบี๊ยกโกะเลยยังถูกเก็บเป็นความลับเหมือนเดิม
–––––หรือว่าเขาจะทำอะไรพลาด ไม่สิ ถ้ามีอะไรผิดพลาดจริงมีหรือที่คนอย่างโฮซึอิน ยามาโตะจะเพิ่งเอามาบอกเขาตอนนี้ ไม่มีทาง
แต่แล้ว ฮิบิกิก็ได้รับคำตอบอันน่าประหลาดอีกครั้ง
/วันนี้นายไม่ต้องมาทำงาน/
–––––––––––หา?
คนติดสตั๊นไปหลายวิดึงตัวเองออกจากภวังค์ "นี่ฉันไม่ได้หูฝาดใช่ไหม"
หรือนี่จะเป็นฝัน? อย่างยามาโตะเนี่ยนะบอกให้เขาหยุด–––– ช่วงเช้าวันแรกของปีใหม่นี่ก็มีเรื่องมาทำให้เขาประหลาดใจไปตั้งสองรอบแล้วนะ รอบแรกก็ไดจิ แต่รอบสองคือคนที่เขาไม่อยากเชื่อที่สุด
/งานเมื่อคืนเคลียร์ไปแล้ว นายก็เลยว่าง มันก็แค่นั้น/ คนพูดเอ่ยไว้เพียงแค่นี้ แต่ฮิบิกิมีลางสังหรณ์เหมือนกับว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ๆ แค่ยามาโตะไม่ดึงเขาเข้าไปมีส่วนร่วม––––––
แต่–––– ในเมื่อยามาโตะไม่คิดบอกเขา ฮิบิกิก็ไม่จำเป็นต้องไปเซ้าซี้อะไรหรือทำตัวเป็นคนดีนึกอยากช่วยเหลืออะไรเกินจำเป็น เพราะบางครั้ง การไม่รู้ในบางเรื่อง ก็สามารถทำให้สามารถดำรงชีวิตอยู่เป็นสุขได้ ในขณะที่รู้บางเรื่อง–––– ก็อาจต้องมาลงเอยแบบเขาในทุกๆ วันนี้ไง–––––––––––
ฮิบิกิหลับตา
อืม นายอย่าฝืนก็แล้วกัน แล้วพูดเสียงต่อเบาหวิว แล้วก็–––– ขอบใจ ที่เปลี่ยนเสื้อให้เขา และ––– อะไรอื่นๆ อีกหลายๆ อย่างในช่วงเวลาที่ผ่านๆ มา
/––––ใช้โอกาสนี้พักผ่อนให้เต็มทีซะ/ คำพูดคล้ายประโยคคำสั่งฟังไม่เข้าหูทำให้ฮิบิกิเกิดความรู้สึกอยากรั้งบทสนทนามากกว่านี้ และก่อนที่ยามาโตะจะตัดสายไป ฮิบิกิก็เลยชิงถามขึ้นมาเสียก่อน
วันนี้นายว่างไหม
/ตอนบ่ายมีจัดงานในสภา ไม่ว่าง/
เย็นล่ะ?”
/ถามทำไม?/
เปล่าหรอก ฮิบิกิส่ายหัว พูดต่อเสียงซื่อ แค่จะชวนไปเดทน่ะ ในเมื่อไดจิบอกว่ามันเรียกว่าเดทได้ เขาจะใช้บ้างก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
แล้วฮิบิกิก็ได้ยินเสียงคนที่อยู่ปลายสายสำลักอากาศ

05.37 PM
มาช้า
ตรงเวลาต่างหาก ฮิบิกิในชุดตัวเก่งอมยิ้ม มองคนที่มาถึงก่อนนั่งกอดอก ทำสีหน้าไม่สบอารมณ์ แล้วส่งน้ำเย็นให้ เป็นอะไรไป อารมณ์บูดเชียว อุตสาห์มาเที่ยวทั้งที หรือว่าจริงๆ ยามาโตะไม่อยากมา
ยามาโตะที่สลัดมาดผู้นำ JP’s มาเป็นเด็กหนุ่มวัยสิบแปดธรรมดาคนนึงเงยหน้ามองคนที่เป็นต้นเหตุให้เขาอารมณ์บูดแล้วถอนหายใจปลง รับน้ำเย็นมาแต่โดยดี เปล่า ฮิบิกิฉลาด ยามาโตะรู้ แต่ก็มีบางเรื่องที่ฮิบิกิเข้าใจได้ช้าซะจนน่าหงุดหงิด–––––––––
ไม่ได้หงุดหงิดฮิบิกิ แต่ตัวเขาต่างหากที่น่าหงุดหงิดที่สุด––
ฮิบิกินั่งลงข้างๆ เขา นายมีที่ไหนที่อยากไปไหมล่ะ
ไม่
ดวงตาสีฟ้าใสมองฉายแววประหลาดใจ เอ๋ ไม่มีเลยเหรอ
ยามาโตะเลิกคิ้ว ไม่ได้คิดไว้เหรอว่าจะไปไหน ปกติไม่ใช่ว่าฝ่ายที่ชวนคือคนนำทางหรอกหรือ
ปกติฉันให้ไดจินำน่ะ ฮิบิกิว่าพร้อมรอยยิ้มจาง จะให้ฉันพาไปที่ที่ฉันเคยไปกับไดจิเมื่อปีที่แล้วก็ได้ สวยดี สงบดี แต่ถ้านายมีที่ไหนในใจ บอกมาได้เลยนะ ในช่วงขั้นมัธยมปลาย ฮิบิกิได้ไปเที่ยวกับไดจิมาหลายที่รวมๆ แล้วก็เกือบสิบแห่ง แม้ระยะหลังหลังจากขึ้นปีสามแล้ว เขาจะถูกพ่อแม่ปรามว่าให้เพลาๆ เรื่องนี้ลงหน่อย แต่––––– เขาก็ไม่ฟัง
ไม่––––– ยามาโตะที่กำลังปฏิเสธไปชะงัก นิ่งไปชั่วครู่ ปมคิ้วขมวดเหมือนไม่ชอบใจกับสถานที่ที่ผุดขึ้นมา แต่แค่ขึ้นชื่อว่า สถานที่ ที่อยู่ในความทรงจำของโฮซึอิน ยามาโตะ ก็ทำให้ฮิบิกิรู้สึกสนใจมาก
มีที่ไหนอยากไปหรือเปล่า ฮิบิกิยื่นหน้าเข้าใกล้อีกฝ่าย
ยามาโตะสบตามองร่างที่สูงน้อยกว่าเล็กน้อย แล้วไม่พูดอะไรนอกจาก
ตามฉันมาแล้วกัน

06.12 PM
ฮิบิกิกะพริบตาปริบ
ที่นี่เหรอที่ยามาโตะอยากมา–––––––
ร้านค้าข้างถนนทอดยาวเรียงรายหาแบบได้เกลื่อนกลาดในย่านเก่า แต่ที่ที่ยามาโตะพามาถูกจัดเป็นแหล่งบริเวณตั้งร้านขายที่ดีที่สุดของเมือง คืนนึงจะมีร้านประจำตั้งเกือบห้าสิบร้าน แต่เพราะวันนี้คือวันปีใหม่ คนส่วนใหญ่หากไม่เดินเที่ยวห้าง ออกต่างจังหวะบ้าง ไม่ก็เข้าเมืองหาวันหยุดพักผ่อน ทำให้มีคืนนี้มีร้านเปิดขายแถวบริเวณนี้ไม่มากอย่างที่วันธรรมดามี แต่ถึงอย่างนั้น จำนวนคนที่แม้จะลดน้อยลงประมาณสองในห้าก็ไม่ทำให้ร้านบางร้านขาดทุน และยังใช้มันเป็นโอกาสในเทศกาลต้อนรับวันปีใหม่ได้อีกด้วย
ดวงตาสีฟ้าเหลือบมองคนใกล้ตัวที่ยืนนิ่งอยู่ก็จริง แต่สายตากลับจ้องเขม็งเหมือนกำลังมองหาบางสิ่งจริงจัง
ฮิบิกิหลุดยิ้ม   
ตอนแรกเขานึกว่าอีกฝ่ายอยากไปที่สงบๆ เสียอีก ที่ไหนได้ กลับมาที่แบบนี้ซะได้–––––
ผิดคาดแฮะ
มองฉันแบบนั้นหมายความว่าไง ยามาโตะที่ดูเหมือนจะรู้สึกตัวว่าตนกำลังโดนจ้องอยู่ชักสีหน้า นั่นแน่ะ น้ำเสียงเริ่มออกลายแล้ว
เปล่าสักหน่อย ฮิบิกิส่ายหน้า ไม่อยากเถียงกับยามาโตะตอนนี้ เลยรีบเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น นายนำสิ บอกแล้วไงว่าจะเดินตามนายนั่นแหละ
ยามาโตะแข็งทื่อ ลอบหันไปทางอื่น และบอกกับฮิบิกิด้วยน้ำเสียงระคนไม่มั่นใจ ฉัน––– ไม่รู้ต้องทำไง
ครั้งหนึ่งในสมัยตอนที่เขายังเด็กและได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดีในฐานะผู้นำตระกูล ยามาโตะเคยเห็นร้านตั้งขายพวกนี้ผ่านกระจกรถเวลาออกเดินทางไปไหนมาไหนบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้มีโอกาสมาเดินแบบนี้เลยสักครั้งหนึ่ง
หือ
ฮิบิกิยืนนิ่ง ยอมรับเลยว่าทั้งอึ้งและตกใจกับคำตอบของยามาโตะ แต่ก็เพียงพริบตาเดียวเท่านั้นก่อนที่หัวใจเขาจะรู้สึกปวดแปลบ
อา เขาลืมไปได้ไงนะ ว่าหมอนี่คือใคร
โฮซึอิน ยามาโตะ ทายาทผู้สืบทอดอำนาจจากตระกูล เป็นผู้ควบคุมอยู่เบื้องหลังของสถานการณ์ทางการเมืองและรวมถึงอำนาจรัฐบาล ถูกกล่าวขานเป็นอัจฉริยะตั้งแต่อายุยังน้อย ทั้งยังต้องแบกรับภาระอย่างผู้บัญชาการ JP’s ไว้บนบ่าตั้งแต่อายุสิบสี่ปี แล้วคนแบบนี้จะมีเวลามาเดินเล่นอะไรแบบนี้อย่างที่คนธรรมดาเขาทำกันได้ยังไง–––––
ราวกับ–––– อยู่กันคนละโลก–––––
แต่–––––––– นั่นมันก็แค่ 'ตอนนั้น' ไม่ใช่เหรอ
ฮิบิกิกระตุกยิ้ม มองสีหน้าไม่ชอบใจของคนที่หันหน้าไปทางอื่น
ส่วนเรื่อง 'หลังจากนี้' –––––––––––
"ฮ่าๆ"
แล้วก็หลุดเสียงหัวเราะออกมา
"หัวเราะอะไรของนาย"
"ก็หัวเราะนายนั่นแหละ" รวมถึงตัวเขาด้วย
ยามาโตะขมวดคิ้ว "หมายความว่าไ...?!"
ยามาโตะเบิ่งตากว้าง เมื่อรู้สึกว่ามือของตนถูกร่างเล็กกว่ากอบกุมไว้ ปลายนิ้วร้อนผ่าวของอีกฝ่ายสอดเข้าไปในร่องนิ้วของเขาและกุมไว้แน่น
เหมือนกับไม่คิดจะปล่อยไปไหน
คนเบือนหน้าไปทางอื่นผินหน้ากลับมาหาอีกฝ่าย จ้องมองเข้าไปในดวงตาสีฟ้าใสส่อแววเป็นประกายและยินดีของอีกฝ่ายก็พลันรู้สึกทิ่มแทงในอก เหมือนมีบางอย่างติดอยู่ในลำคอ มันไม่ใช่ความรู้สึกอึดอัด––– ไม่สิ มันอึดอัดในอก ทำให้ลมหายใจเขาร้อนผ่าวจนแทบขาดห้วง และเมื่อเห็นริมฝีปากบางกระซิบแผ่ว หัวใจของยามาโตะก็บีบรัดหนักหน่วง
อย่าปล่อยมือล่ะ

08.42 PM
หลังจากที่กินกันเต็มอิ่มแล้ว ฮิบิกิก็กระชากยามาโตะมานั่งย่อยที่ม้านั่งหินข้างสนามเด็กเล่นซึ่งในเวลานี้ปราศจากผู้คน แสงไฟจากโคมไฟสีขาวบาดตาฉายให้เห็นทางเดินปู่ลาดอิฐสีแดง และถัดไปผืนน้ำสีดำในค่ำคืนไร้ดวงจันทราส่อง  
รู้สึกยังไงกับประสบการณ์เดินซื้อตามร้านครั้งแรก
วุ่นวาย ยามาโตะขมวดคิ้ว มองคนข้างๆ ที่ตอนนี้เอาหัวเอนไปด้านหลัง เพื่อแหงนหน้าดูท้องฟ้าสีดำ กลุ่มดาวมากมายลอยเด่นในค่ำคืนไร้นวลจันทร์
ฮะๆ ตอนแรกฉันก็รู้สึกอย่างนั้น
ความเงียบปกคลุมระหว่างทั้งสองเพียงครู่เดียวก่อนฮิบิกิจะถามขึ้นมาว่า
ยามาโตะ นายชอบกินทาโกะยากิไส้อะไร
––ทำไมถามแบบนั้น
ก็––– จริงๆ แล้วนายมาที่นี่ เพราะอยากกินทาโกะยากิไม่ใช่เหรอ?” ยิ้มอย่างรู้ทัน แต่ไม่ได้ทำให้ยามาโตะรู้สึกไม่ชอบใจที่ถูกจับได้ ก็แค่––– ขมวดคิ้วนิดหน่อยเท่านั้นเอง จริงๆ แล้ว คนที่แอบไปใช้เครื่องมือ JP’s ทำทาโกะยากิตอนดึกบ่อยๆ คือนายสินะ
แล้วจะทำไม
ก็แค่อยากรู้––– ตาสีฟ้าปิดลง ใบหน้าผ่อนคลายคลี่ยิ้มปลอดโปร่ง เรื่องของนายมากยิ่งขึ้น
...
ดวงตาสีอเมทิสต์ชำเลืองมองคนข้างๆ ที่ดูเหมือนจะผล็อยหลับไปแล้ว ก่อนทอดมองไปที่ผืนน้ำสงบในความมืดนิ่ง ใบหน้าหล่อเหลาไม่ฉายอารมณ์ใดๆ แม้กระทั่งยามลมหนาวพัดไล้เสียดแทงผิวหนัง แต่ที่มือซึ่งยังประสานกันไว้แน่นไม่ยอมปล่อยไปอย่าไหนแม้แต่วินาทีเดียวกลับทำให้อุ่นวาบไปหมดทั้งกาย
ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ อาจจะชั่วโมงหรือหลายชั่วโมง ความเงียบก็ได้ถูกทำลายลงอีกครั้ง
ยามาโตะ คนหลับตาอยู่เรียก
ว่า
สุขสันต์วันปีใหม่ ขอให้มีความสุข
ความสุข งั้นเหรอ–––?
ยามาโตะหลุบตา มองมือของตนที่ยังถูกกุมแน่น
แบบนี้หรือเปล่านะที่เขาเรียกว่า ความสุข
อืม
อืม ที่ว่าไม่ได้เป็นเพียงแค่การขานรับ–––––––––––––––
แต่คำสัญญา––– ว่าเขาจะรักษา ความสุขนี้ให้อยู่ไปได้อีกนานแสนนาน
[End]

-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-
{SPECIAL HNY}

幸せになりますように
(ขอให้มีความสุข)



11.54 PM

ตรงสี่แยกขากลับ ฮิบิกิกับยามาโตะยืนรอให้สัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว ระหว่างนั้นดวงตาสีฟ้าคู่ใสก็กวาดมองไปทั่วจนกระทั่งไปหยุดอยู่กับร้านขายทีวีฝั่งตรงข้ามที่กำลังรายงานข่าวกีฬา แม้โดยปกติรายการกีฬามักจะฉายช่วงเย็นเสมอ แต่เพราะวันนี้วันปีใหม่ ทำให้มีรายการแทรกเข้ามาหลายรายการจนทำให้รายการบางช่องต้องเลื่อนมาฉายภาคดึกแทน
และตอนนี้ ก่อนขึ้นวันใหม่ในอีกห้านาทีข้างหน้า รายการข่าวกีฬาได้ซูมจับภาพใบหน้าของคนคนหนึ่ง
เป็นใบหน้าชุ่มเหงื่อที่อาจกล่าวได้ว่าทั้งหล่อและสวย ดวงตาสีน้ำตาลช็อคโกแลตทอแสงขึงกร้าว ขณะที่ร่างโปร่งลอยอยู่กลางอากาศในท่ากระโดดเสิร์ฟ ทุกๆ การเคลื่อนไหว การขยับของกล้ามเนื้อ และการเหวี่ยงมือตบลูกล้วนดูสวยงาม สมบูรณ์แบบราวกับภาพวาด ขนาดคนที่ไม่มีหัวเรื่องกีฬาอย่างฮิบิกิยังละสายตาไม่ได้
หน้าตาดีชะมัด เป็นนักกีฬาเหรอเนี่ย––––?
มองอะไร ยามาโตะที่เห็นฮิบิกิเอาแต่มองไปที่ร้านขายทีวีถามอย่างสงสัย
เปล่า–––– โอ้ะ ฮิบิกิประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มอีกคนที่อยู่ข้างๆ กันในทีวีนั้นคือชายร่างสูงผมแทน ดวงตาน้ำตาลเข้มของผลโอลิฟดุดัน แต่น่าแปลกที่มันทำให้ฮิบิกิรู้สึกคุ้นพิลึก––––––
อ่อ นึกออกแล้ว ชายคนนี้––– เป็นตัวเต็งระดับประเทศนี่นา–––––––
ในสมัยที่อยู่มัธยมปลายปีหนึ่ง เพื่อนๆ นักเรียนชายในห้องมักจับคุยกันเรื่องกีฬา ฮิบิกิก็เลยพอเห็นหน้าคนคนนี้ผ่านๆ ตามาบ้าง–––––––––––––––
ไฟเขียวแล้ว ยามาโตะพูด ก่อนเดินนำหน้าฮิบิกิไป อย่าช้า
อา เมื่อเห็นยามาโตะก้าวไปก่อน และเหลือเวลาอีกไม่ถึงยี่สิบวินาทีก่อนที่ไฟเขียวสำหรับคนข้ามถนนจะเปลี่ยนเป็นแดงอีกครั้ง ฮิบิกิเร่งฝีเท้าตามร่างสูงที่เดินนำหน้าไปก่อนจนกระทั่งเห็นเด็กคู่หนึ่งเดินจับมือกัน–––– คนหนึ่งน่าจะราวๆ เด็กมัธยมต้นขณะที่อีกคนน่าจะประมาณเด็กประถมปลาย
ในตอนนั้นเอง ระหว่างที่กำลังเดินสวนกัน หางตาของของฮิบิกิเห็นรอยยิ้มขยับกว้างบนใบหน้าของเด็กที่โตกว่า เด็กหนุ่มได้ยินเสียงกระซิบข้างริมหู––– เสียงกระซิบที่ทำให้ฮิบิกิรู้สึกเหมือนมีมัจจุราชมาตะปบที่ลำคอ
ปีใหม่นี้ขอให้เป็นปีที่ดีนะ ผู้เจิดจรัส
!!!
สัญชาตญาณป้องกันพุ่งทะลุสู่จุดสูงสุด ฮิบิกิหันควับ มือกุมโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงแน่น แต่เมื่อหันไป เขาก็ไม่พบอะไรเลยนอกจากแผ่นหลังของเด็กสองคน หนึ่งคือเด็กมัธยมต้น กับอีกคนคือเด็กประถมต้นที่เดินสวนเขาไปเมื่อครู่ด้วยท่าทางปกติ เหมือนเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น รอยยิ้มที่เขาเห็น เสียงที่เขาได้ยิน และจิตที่เขาสัมผัสได้คือเรื่องหลอกลวง
แต่––––– ถ้างั้นจิตหนักอึ้งเมื่อตะกี้มันมาจากไหนกันล่ะ?
เป็นอะไรไป
ฮิบิกิผ่อนลมหายใจ ส่ายหัวลนๆ เปล่า–––ไม่มีอะไร
เขา––– คงจะคิดไปเอง

11.58 PM
รู้จักคนเมื่อกี้หรอ นาโอยะ เสียงนุ่มถามจากร่างเล็กถามผู้มีศักดิ์เป็นญาติซึ่งโตกว่าห้าหกปี ทำให้เด็กหนุ่มตอบไปแบบเลี่ยงๆ
ก็ไม่เชิง
เด็กชายผมน้ำเงินแหงนหน้ามองญาติห่างๆ ของตนด้วยสายตานิ่งสงบ และไม่คิดทูซี้ต่อ
นาโอยะ
หืม คนถูกเรียกก้มมอง สบเข้ากับดวงตาสีน้ำเงินเข้มดุจห้วงทะเลลึก
นายว่าหิมะจะตกไหม
ที่โตเกียวหิมะไม่ตกมาห้าสิบปีแล้ว
ฉันไม่เคยเห็นหิมะตกที่โตเกียว เด็กชายเอียงคอ มองนาโอยะแล้วพูดอย่างเอาแต่ใจ ฉันอยากเห็น
นาโอยะลูบหัวเด็กชาย และยิ้มบาง
ยิ้ม–––– อย่างที่เด็กชายไม่เคยเข้าใจในความหมายของมันเลยสักครั้ง
ถ้านั่นคือความต้องการของนาย––– หิมะก็คงตกจริงๆ นั่นแหละ คาซึยะ

07.01 AM
ช่วงเช้าวันที่สองเดือนมกราคมในเมืองหลวงโตเกียว ผู้คนมากมายที่กลับจากการพักผ่อนเดินเตร็ดเตร่สวนทางเพื่อมุ่งหน้าไปทำงานอีกครั้ง ทุกอย่างในเมืองหลวงกลับมาเป็นปกติ และในวันนี้ กลางสี่แยกไฟแดงที่มีผู้คนเดินขวักไขว้ ตึกที่มีจอขนาดยักษ์ฉายช่องข่าวสารสำคัญ
พาดหัวข่าว หิมะแรกหลังจากผ่านไปห้าสิบปี––––––––
รายงานข่าว เมื่อคืน ณ เวลาเที่ยงคืนหนึ่งนาที หิมะที่ไม่เคยตกที่โตเกียวมาตลอดระยะเวลาห้าสิบปีได้ตกอีกครั้งหนึ่ง แหล่งข่าวจากพยากรณ์อากาศแจ้งมาว่านี่เป็นเหตุการณ์เหนือความคาดหมาย ขอให้ประชาชนระวังเรื่องสุขภาพ...
[End (?)]

-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/
's Talk:

สุขสันต์วันปีใหม่ฮะ ยอมรับจริงๆ ว่าหายตัวไปนานมาก (_ _)
ก้มกราบขออภัยทุกท่านจริงๆ แต่ช่วงนี้คืออ่านหนังสือวุ่นมาก (เพิ่งพ้นเก้าวิชามา)
ที่มาอัพตอนนี้ไม่ได้เป็นสัญญาณบอกว่ากำลังจะกลับมานะฮะ... คือ เดี๋ยวแว่บหายต่อ (โฮก)
คือ ร่มไม่ได้จะทิ้งนะฮะ เพียงแต่ตอนนี้ร่มอยู่ในช่วงมรสุมจริงๆ (Count Down O-NET 50 กว่าวัน + กับ GAT/PAT 90 วัน) T^T
แต่ทันทีที่พ้นพวกนี้ไป รับรองจะรีบกลับมาปั่นต่อแน่
โดยเฉพาะเรื่องนี้ จะเอาให้จบก่อนประกาศผล Add ช่วงเดือนเจ็ดนะฮะ เพราะเหลือแค่ไม่กี่ตอนจริงๆ (น่าจะ 4-5 ตอน)

ปล. ว่าแต่ มีใครในเรื่องนี้ สังเกตเห็นคู่ลับๆ ที่ร่มแอบใส่เข้ามาใน SPECIAL ไหม >.<
(ไม่นับคู่ นาโอยะกับคาซึยะที่มาจาก DS 1) บอกใบ้ว่ามันเกี่ยวกับวอลเล่ย์! [คือ มีโปรเจคจะแต่ง fic ให้กับคู่ลับๆ คู่นี้สักหน่อย (แต่ขอให้มรสุมจบลงไปก่อนนะฮะ แต่งแน่ ฮือ)]

ไว้เจอกันนะฮะ
An Umbrella



1 comment:

  1. รับทราบเจ้าค่ะท่านไรท์คือว่าชอบเรื่องนี้มากค่ะ ไรท์เเต่งดีมากกก>< สู้ๆนะคะ ทั้งในเรื่องการเเต่งนิยายเเละการสอบ
    เปนกำลังใจให้เสมอนะคะ
    ปล.รอFridayอยู่นะคะ^^

    ReplyDelete