หน้าเว็บ

Monday, March 28, 2016

[兎] SHORT FIC 酔い痴れる




Fandom: Devil Survivor the animation 2
Gerne: PG-13
Pair: Hotsuin Yamoto x Kuze Hibiki
Warning: คาแร็กเตอร์ตอนนี้ค่อนข้างหลุดพอสมควร โปรดทำใจความไร้ความสามารถของร่ม (โอ๊ส)  
Story: เมื่อกระต่ายเมา แล้วยั่วท่านมังกร??!! // ปล. ยั่วสไตล์ร่ม


い痴れる
(เมามาย)




ยามาโตะ โฮซึอิน หากไม่ดื่มชาชั้นเลิศ ก็ต้องดื่มไวน์ราคาแพงหูฉี่ชนิดกินเงินเดือนของเขาทั้งปีเท่านั้นสินะ ช่างเป็นความไม่ยุติธรรมของโลกที่ไม่อาจคัดค้านได้จริงๆ
เจ้าหน้าที่ขนถาดอาหารคิดอย่างเซ็งๆ ชะงักฝีเท้าเมื่อได้ยินเสียงพูดคุยของคนสองคนที่กำลังเดินคุยกันอย่างจริงจัง
คุเสะ ฮิบิกิ เธอเข้าใจแล้วใช่ไหม
ครับ คุณมาโคโตะ
ดี ขอฝากเธอจัดการด้วยนะ
ไม่มีปัญหาครับ
อรุณสวัสดิ์ครับ คุณมาโคโตะ คุณฮิบิกิ ขณะที่สองร่างนั้นกำลังเดินสวนไป เจ้าหน้าที่ส่งอาหารรีบก้มหัวทักทายคนที่มีอำนาจเป็นรองแค่ผบ. กับอีกคนที่แม้จะเพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียงครึ่งปี กลับมีความสามารถที่จะยืนหยัดเทียบเคียงกับมาโคโตะ มันสมองชั้นเลิศ และยังความสามารถในภาคปฏิบัติยอดเยี่ยมอย่างไม่มีผู้ใดสามารถทัดเทียม
ไม่ต้องเรียกผมว่า คุณ หรอกครับ ฮิบิกิยิ้มเก้อนิดๆ ไม่คุ้นชินการที่มีคนมาเคารพเขาแบบนี้ อีกฝ่ายยังอายุมากกว่าเขาด้วย ช่างเป็นอะไรที่แปลกประหลาดในความคิดของฮิบิกิ
ถ้าเป็นยามาโตะก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เรียกผมว่า คุเสะ ไม่ก็ ฮิบิกิ ก็พอครับ
ครับ คุณฮิบิกิ
ฮิบิกิพรูลมหายใจ มาโคโตะที่ยืนอยู่ข้างๆ ฉีกยิ้มเล็กๆ อย่าคิดมาก คุเสะ
มันรู้สึกแปลกๆ นี่ครับ
เดี๋ยวก็ชินเองแหละ
ฮิบิกิส่ายหน้า ไม่รู้ว่าจะโต้กลับกับมาโคโตะยังไงถึงจะชนะ วงหน้าขาวเลยวกกลับมามองรถเข็นถาดอาหาร สายตากวาดสำรวจอาหารในจานที่ถูกหม้อทองครอบไว้ แก้วไวน์ทรงสวยวางคว่ำ ไวน์แช่เย็นจากฝรั่งเศสปี 1789 ---- ไม่ต้องนึกถึงราคาที่เห็นแล้วคงแทบจับ
เอาไปให้ใครเหรอครับ
อะ เอ่อ ท่านยามาโตะครับ
ดีเลย ฮิบิกิฉีกยิ้ม เดี๋ยวผมเอาไปให้หมอนั่นเอง
แม้จะอยู่ที่ทำงานที่นี่มาหกเดือนแล้ว แต่กว่าจะได้เริ่มเข้าทำงานของจริงก็เสียเวลาไปมากกว่าสามเดือน ยังไม่รวมช่วงเวลาในการปรับตัวกับการทำงาน และกิจวัตรต่างๆ อีก เรียกได้ว่าช่วงสี่เดือนแรก ฮิบิกิวิ่งวุ่นไปมาไม่มีเวลาว่างผละไปเจอยามาโตะเป็นการส่วนตัวเลย แม้จะได้เจอกันบ้าง แต่ก็ไม่บ่อยนัก
ที่สำคัญ นี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้ไปห้องยามาโตะ-----
ตื่นเต้นแฮะ-----
ตะ แต่ว่า---
ไม่เป็นไรหรอก มาโคโตะเป็นฝ่ายพูดออกมาเอง รู้ได้ว่าต่อให้เธอปฏิเสธ ยังไงเสีย คุเสะ ฮิบิกิ ก็คงหาทางทำอะไรสักอย่างเอง ถ้เกิดอะไรขึ้น ก็บอกไปว่าเป็นคำสั่งจากฉันละกัน
คะ ครับ
ฮิบิกิก้มหัวนิดๆ ขอบคุณนะครับ คุณมาโคโตะ
ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก มาโคโตะขัดขึ้นก่อน รีบกลับมาให้ไวที่สุด อย่างน้อยวันนี้ท่านผบ.จะได้มีโอกาสพักผ่อน
ฮิบิกิคลี่ยิ้มชืดนิดๆ สิ่งที่มาโคโตะพูดออกมาคือสิ่งที่ถูกต้อง------- เขาควรจะปล่อยให้หมอนั่นกินข้าวคนเดียวและเข้านอนไปทันที อย่างน้อยมันจะได้ช่วยให้ยามาโตะไม่ต้องฝืนมาก แต่--- มันช่วยไม่ได้นี่ เขาห้ามความอยากรู้ของตัวเองได้ที่ไหน
ทราบแล้วครับ
....................................................................
........................................
...................
...
.
เสียงเคาะประตูดังผิดวิสัยเดิม ร่างโปร่งในเสื้อเชิ้ตสีเทาเงยหน้าขึ้นจากหน้าหนังสือ ตาสีอเมทิสตวัดวูบขึ้นมองนาฬิกาเล็กน้อย รู้แจ่มแจ้งว่านี่เป็นเวลารับประทานอาหารซึ่งคนที่กำลังเคาะประตูอยู่น่าจะเป็นคนส่งอาหารมือใหม่ที่ไม่รู้ว่าแค่วางมันทิ้งไว้หน้าห้อง และเมื่อถึงเวลา ก็ให้มารับอุปกรณ์กลับไปก็พอ
น่าคำราญ 
ดวงตาเย็นชาไม่ได้ฉายอารมณ์หงุดหงิดหรือไม่ชอบใจ เพียงแต่ดูเย็นชาและเย็นเยือก น่ากลัวว่าหากใครได้สบตาข้าคงได้กลายเป็นหุ่นหิมะแช่แข็ง
ไม่มีใครบอกเหรอว่าไม่จำเป็นต้องมาส่งถึงในห้อง คำพูดนี้ หากเป็นคนอื่นๆ คงรู้สึกอึกอักหรือเกรงกลัว แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับคนที่อยู่อีกฝาก 
ก็ฉันไม่รู้นี่น่า เสียงตอบรับเหนือความคาดหมาย สยบพายุหิมะในดวงตาสีอเมทิส
หนังสือในมือปิดลง ตาฉายแววแปลกใจ ฮิบิกิงั้นเหรอ
อืม ฉันเอง
ร่างโปร่งขยับลุกจากโต๊ะ ก้าวยาวๆ เพื่อเปิดประตูให้ใครอีกคนที่เดินมาพร้อมถาดอาหาร
เข้ามา
ฮิบิกิยิ้มแฉ่ง ผิดคาดที่เห็นยามาโตะเป็นฝ่ายเปิดประตูให้กับเขา รบกวนหน่อยนะ
ทันทีที่ประตูไม้ปิดสนิท ยามาโตะเดินกลับไปนั่งที่เดิม  
นายมาทำอะไรที่นี่ ถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
มาหานายไง
ไร้สาระ แทนที่จะกลับไปทำงาน---
ฉันตกลงกับคุณมาโคโตะไว้แล้วว่าจะเริ่มทำภารกิจใหม่ในวันพรุ่งนี้ ฮิบิกิไหวไหล่ เข็นถาดอาหารเข้าไปในประชิดโต๊ะติดหน้าต่าง วางแก้วลงข้างยามาโตะ นั่นหมายความว่าคืนนี้ฉันว่างทั้งคืนยังไงล่ะ
“บังเอิญเสียจริง”
กล่าวเหมือนยินดีแต่สีหน้ากลับนิ่งเรียบจนหน้ากลัว
นายนี่นะ---- ชอบทำหน้าถมึงทึงตลอด ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่มีใครอยากเข้าใกล้ ฮิบิกิโคลงหัว แว้งกัดเจ็บเล็กๆ ถึงตอนนี้จะไม่ค่อยมีใครอยากเข้าใกล้นายอยู่แล้วก็เถอะ ก็เล่นทำหน้าแบบนี้ตลอดศก ขนาดเจ้าหน้าที่งานใน JP’s ด้วยกันเองยังเกร็งๆ ใส่เลย
ฉันไม่สนเรื่องพรรค์นั้น ยามาโตะเอียงแก้วเล็กน้อย สื่อเป็นนัยให้คนที่ยืนอยู่รินไวน์แช่เย็นให้กับเขา ซึ่งฮิบิกิก็ตอบรับความต้องการนั้นอย่างไม่กระโตกกระตากหรือติดขัด รินเพียงปริมาณก้นแก้วเล็กน้อยตามมารยาท ทุกคนที่เข้ามาใกล้ตัวฉันก็แค่พวกแสวงหาผลประโยชน์ แต่ในขณะเดียวกันฉันก็ได้รับประโยชน์จากพวกนั้นเหมือนกัน------  
จะบอกว่าถ้าได้นายเลือกรู้จักคนที่ผลประโยชน์ว่างั้น----?
ประมาณนั้น ตอบอย่างไม่แยแส โดยไม่ทันสังเกตนัยน์ตาใสของคนที่ขยับยกตัวนั่งทับที่เท้าแขนของเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม--- ว่ามันกำลังทอแสงหม่นเล็กน้อย
"งั้นเหรอ"
ยามาโตะพินิจมองอีกคนในความมืด
ร่างโปร่งในชุดสีดำที่หันหลังให้กับแสงจันทร์ เสี้ยววงหน้าหลบอยู่ใต้เงามืดทำให้ยามาโตะไม่แน่ใจว่าแสงสีฟ้าที่มักทอแสงสดใสมาตลอดได้ทอแสงหม่นหมองเพราะความมืดหรืออะไรกันแน่ แต่ที่มากกว่านั้น คือเสี้ยวหนึ่งของหัวใจที่คิดว่าฮิบิกิควรหันหน้ารับแสงสว่างมากกว่าหันหลังให้กับแสงสว่าง
ไม่นั่งดีๆ ล่ะ--?
ตรงนี้มันสะดวกกว่า ฮิบิกิเขย่าขวดไวน์ คลี่ยิ้มมุมปาก ถ้างั้นใครจะรินไวน์ให้นายล่ะ
ยามาโตะหัวเราะในลำคอ เอียงปากแก้วให้ฮิบิกิช่วยรินอีกครั้ง
น้ำหนักของปากขวดที่จรดอยู่ขอบแก้ว ของเหลวสีเข้มหลั่งรินเติมเต็มความว่างเปล่า ตอนนั้นเองที่ยามาโตะได้ตระหนักว่าการสนทนาไปจิบไวน์ไป มันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด
บนสนทนาไหลลื่นไปเรื่อย เวลาเดินผ่านไปไม่น้อย แต่มีประเด็นหนึ่งที่ติดค้างอยู่ในใจของฮิบิกิมาสักพักใหญ่แล้ว
ดื่มเร็วจังนะ เปรยๆ พร้อมเอนขวดรินไวน์ให้กับยามาโตะเป็นรอบที่หก ชอบเหรอ
แค่พอดื่มล้างคอได้เท่านั้น
อันที่จริง ต้องบอกว่าเสียเสียงไปกับการตอบโต้ฮิบิกิมากจนคอแห้งไปหมดน่าจะดีกว่า ขนาดตอนสั่งการยามาโตะยังรู้สึกเหมือนยังไม่ต้องเสียเสียงมากขนาดนี้
แต่---- เขาก็ไม่ได้รังเกียจหรอก
ไม่กลัวเมาหรือ
ฉันไม่เคยเมา ตาสีอเมทิสจ้องเขม็งไปที่อีกคน จะลองไหม
ฮิบิกิสะบัดหน้าทันควัน ยิ้มแหยๆ พอดื่มได้อยู่หรอก แต่--- ไม่ดีกว่า
ฮิบิกิไม่ชอบดื่มองดื่มมึนเมาไม่ว่าจะมีฤทธิ์อ่อนขนาดไหน ก็จะพยายามหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุด ถ้าจะให้ไปดื่มอะไรพวกนี้ ฉันยอมดื่มนมเป็นลิตรยังจะดีเสียกว่า
ฮิบิกิจำได้ว่าตอนสมัยขึ้นมัธยมปลายปีหนึ่ง ไดจิลากเขาไปเลี้ยงฉลองที่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่ฮิบิกิได้แตะของมึนเมา แม้จะเป็นแค่เบียร์กระป๋องธรรมดาที่หาได้ตามร้านสะดวกซื้อ ฮิบิกิจำได้ว่ามันมีรสชาติเฝื่อนๆ แต่เหตุการณ์หลังจากนั้นกลับจำได้เพียงเลือนราง ก่อนทุกอย่างจะกลับมาชัดเจนอีกครั้งตอนที่ไดจิชักสีหน้าบูดบึ้ง เอ่ยเสียงกร้าวว่ากับเขา
ฉันจะเลิกดื่มเจ้าพวกนี้แล้ว! สาบานมาสิว่านายจะเลิกด้วย!’
ฮิบิกิไม่เข้าใจว่าทำไมไดจิต้องบีบบังคับให้เขารับปากเสียงแข็งเสียขนาดนั้น แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้เซ้าซี้ถาม แต่ไม่ว่าจะสาเหตุอะไร ฮิบิกิก็รู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งดีแน่ๆ
ดังนั้นการไม่ ลอง คือสิ่งที่ดีที่สุด
จนกระทั่ง----- ได้ยินประโยคต่อมาของ โฮซึอิน ยามาโตะ ที่ทำให้คนใจเย็นอย่างฮิบิกิเข้าใจความหมายของคำว่า ปรี๊ดแตก เป็นครั้งแรก
หึ ก็เหมาะกับน้ำหน้าอย่างนายดีนี่ 

.+..+..+..+..+..+..+..+..+.

เอ่อ คุเสะ เอาจริเหรอ
 หันไปถามซ้ำอีกรอบเพื่อความแน่ใจ
"ครับ"
ฮิบิกิย้ำเสียงหนักแน่น กับการตัดสินใจของตน 
าโคโตะจะนัดคันโนะ ฟูมิมาดื่มทุกๆ วันศุกร์ หรือยามว่าง แต่วันนี้แปลกจากวันก่อนๆ ตรงที่มีสมาชิกคนที่สามเข้ามาด้วย และสมาชิกที่สามนั้นก็คือฮิบิกินั่นเอง
ฉันก็ไม่อยากห้ามหรอก เพียงแต่เธอไม่น่า---
ปีนี้ ผมอายุสิบเก้าแล้ว เลยอยากจะลองดูน่ะครับ ทียามาโตะอายุน้อยกว่าเขาตั้งปีหนึ่ง ยังไม่เห็นมีใครบ่นสักคน
ก็ใช่อยู่หรอก แต่---- เธอน่าจะรู้นี่ว่าท่านผบ.เขาเป็นคนแบบไหน อย่าไปถือสาเขาเลย---
ผมไม่ได้มีเรื่องกับ โฮซึอิน ยามาโตะ คนฟังถึงกับถอนหายใจเฮ้ออย่างลำบากใจลึกๆ มาโคโตะไม่รู้ว่าสิ่งที่ฮิบิกิพูดมาคือเรื่องจริงหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ อย่างหนึ่งคือตอนนี้ฮิบิกิกำลังไม่พอใจในตัวของผบ.สุดๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่บึ่งออกมาจากห้องของผอ.เร็วขนาดนี้หรอก---- เพียงแต่ช่วงนี้----- ผมอารมณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่น่ะครับ ก็เลยมาฆ่าเวลาเล่น
นั่นไง บอกแล้วไหมล่ะ
แต่ถึงอย่างนั้น--
ปล่อยให้คุเสะรียนรู้ไปเองเถอะ ซาก็อดจิ ร่างระหงของด็อกเตอร์สาวที่มาสายกว่าเวลานัดประมาณสิบนาทีกำลังั่งไขว่ห้าง กระดิกนิ้วมือเป็นจังหวะ ยังไงสักวันก็ต้องได้แตะของพวกนี้อยู่ดี
ฟูมิสั่งจุนไมโดกินโจที่มีรสนุ่มลิ้น รินใส่จอกหินจอกเล็ก และเลื่อนไปให้ฮิบิกิโดยเฉพาะ
หญิงสาวคลี่ยิ้มบาง แฝงแววท้าทาย ลองหน่อยไหม รสดีมากเลยล่ะ น่าจะเหมาะกับคนเพิ่งดื่มครั้งแรกแบบเธอ
ขอบคุณครับ ในทีแรก ฮิบิกิก็นึกลังเลเหมือนกันว่าจะสั่งอะไรเพราะไม่มีความรู้เรื่องการสั่งเครื่องดื่มพวกนี้ แต่เมื่อฟูมิเป็นคนสั่งให้เขา เด็กหนุ่มก็รู้สึกโล่งใจไปเปลาะ
มาโคโตะมองเพื่อนสนิทของตนที่ตัดสินใจเออเองเสียเสร็จสับ สลับกับฮิบิกิที่เริ่มยกแก้วขึ้นดื่มแล้วก็ได้แต่พยักหน้าปล่อยๆ ไป เธอเองก็เริ่มดื่มตั้งแต่สมัยยังอายุพอๆ กับฮิบิกิ กะอีแค่ดื่มไปสักสองสามจอกคงไม่เป็นไร
นั่นสินะ
โดยไม่รู้เลยว่า เธอจะต้องมานั่งเสียใจที่ทำไมไม่ห้ามฮิบิกิเอาไว้ตั้งแต่แรก

.+..+..+..+..+..+..+..+..+.

เวลาตีหนึ่ง
ด็อกเตอร์ฟูมิอยู่ไหน
เอ่อ ออกไปข้างนอกพร้อมกับคุณมาโคโตะครับ อย่างที่รู้ๆ กันว่าทุกคืนวันศุกร์สองสาวมักจะไปดื่มที่ร้านขาประจำ แล้วจะกลับมาคุมที่นี่ต่อในช่วงตีสองตีสามทุกครั้ง 
เรียกกลับมาทั้งคู่เดี๋ยวนี้
ครับ
ไม่ต้องหรอก คันโนะ ฟูมิเดินเข้ามาด้วยสีหน้าสดใสไม่เหมือนคนเพิ่งดื่มเลยสักนิด มีอะไรหรือ
มีการตรวจพบคลื่นสัญญาณคลื่นผิดปกติน่ะครับ
หืม ฟูมิดันเจ้าหน้าที่คนหนึ่งออกจากหน้าจอ ใบหน้าสวยยื่นมองค่าตัวแปรที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ถึงจะเป็นค่าตัวแปรที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่โครงสร้างบางอย่างก็ละเอียดอ่อนเกินกว่าจะเป็นรูปสัญญาณคลื่นธรรมดา บางที--- อาจเป็นแอปอัญเชิญเถื่อนที่ช่วงนี้กำลังแพร่หลายในตลาดมืดอยู่ก็ได้
วิเคราะห์ข้อมูลซะ
ฟูมิยักไหล่ จะพยายาม
ประตูเลื่อนเปิดพร้อมการปรากฏตัวของมาโคโตะ และ--- คุเสะ ฮิบิกิ
ทำไมฮิบิกิถึงอยู่นี่---? ยามาโตะนึกว่าฮิบิกิจะกลับไปนอนพักที่ห้องแล้วเสียอีก
ฉันต่างหากที่ต้องถาม ไม่ใช่นายควรอยู่ที่ห้องนายเหรอ---- ไหนบอกว่าจะได้พักไง? คำกล่าวเจือน้ำเสียงกร้าวเล็กน้อยแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนอกเสียจากตอนตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พาให้คิ้วเรียวเลิกสูง
เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ  
คุเสะ กลับไปที่ห้องก่อนไหม มาโคโตะแตะไหล่ของเด็กหนุ่มที่เอาแต่ก้มหน้านิ่งมาตั้งแต่เมื่อกี้ ฝ่ามือสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นกว่าปกติ------ หรือว่า------------------------------
มาโคโตะกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน เธอเมาแล้ว
มาโคโตะผงะเล็กน้อยกับดวงตาสีฟ้าใสวาวโรจน์--- ดูอันตรายยิ่งกว่าตอนยามาโตะอารมณ์เสียเสียอีก สภาพผมดูเหมือนคนเมาหรือครับ-------?
ไม่เลย--- แต่ก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับฮิบิกิในสภาวะอารมณ์ปกติเลยสักนิด-------
ยามาโตะพ่นลม ถ้าสภาพไม่พร้อมจะทำงานก็กลับไปซะ ดูก็รู้ว่าฮิบิกิอยู่ในสภาวะทางอารมณ์ที่ไม่มั่นคง การจะส่งฮิบิกิปฏิบัติงาน ถือเป็นอะไรที่เสี่ยง ฉันไม่ต้องการตัวถ่ว---
ฉันจะไป ไม่อาจเอ่ยแย้งได้เมื่อเห็นดวงหน้าที่มักประดับด้วยรอยยิ้มบัดนี้กลับกลายเป็นเย็นชา ดวงตาสีฟ้าใสมองมาราวกับไม่คิดสนใจ และไม่ต้องการการขออนุญาตจากนายด้วย คนพูดเดินกลับหลัง ออกจากห้องบัญชาการเพื่อไปหยิบเสื้อคลุมสำหรับใช้ในการปฏิบัติภาคสนาม
ทันทีที่ประตูเลื่อนปิดลง ทุกสายตาของคนที่อยู่ในห้องก็เพ่งมองยามาโตะที่ยังคงยืนนิ่งอย่างเฝ้ารอปฏิกิริยาต่อมา และไม่ผิดจากที่คิดสักเท่าไหร่---- ท่านผบ. เริ่มอารมณ์ไม่ดีแล้ว------------------
หมอนั่นเป็นบ้าอะไร
ใช่ว่ายามาโตะไม่เคยเห็นฮิบิกิอารมณ์ไม่ดี อย่างในวันตัดสินเจ็ดวันของโพลาริส ฮิบิกิอารมณ์ร้อนกว่านี้เสียอีก เพียงแต่ในตอนนั้นเวลารู้สึกไม่พอใจ ฮิบิกิก็จะพูดออกมาให้เขาได้รับรู้ ไม่ใช่มาซ่อนงำเก็บไว้ข้างใน และรอระเบิดแบบนี้
ฟูมิคลี่ยิ้ม เมาไง
หมายความว่าไง
พวกฉันพาเขาไปดื่มมา ฟูมิหัวเราะอารมณ์ดี ตอนแรกก็ดูปกติดีอยู่หรอก---- แต่ดื่มไปเรื่อยๆ ก็ดูเหมือนจะ ไม่’”
ดิฉันว่าควรห้ามไม่ให้ คุเสะ ฮิบิกิ ออกปฏิบัติงานตอนนี้ มาโคโตะพูดอย่างเครียด แบบนี้มันจะ----
ในเมื่อหมอนั้นดึงดันเอง ก็ปล่อยไปเถอะ ยามาโตะรู้ว่าควรระงับการทำงานของฮิบิกิเดี๋ยวนี้ แต่เขารู้สึกได้ว่าในดวงตาที่มองมาเมื่อกี้---- มันสื่ออะไรมากกว่านั้น
------- ราวกับจะบอกว่า จับตาดูฉันให้ดี'
แต่--  
ปล่อยไปเถอะ ซาก็อดจิ ฟูมิฉีกยิ้ม--- สมใจ
บางทีคืนนี้---- อาจมีเรื่องสนุกๆ เกิดขึ้นก็ได้
....................................................................
........................................
...................
...
.
ร่างโปร่งที่ขยับกายคล่องแคล่ว สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวอันทรงพลังของเบี๊ยกโกะที่เพียงกระโจนออกไปก็ถึงตัวศัตรู ใช้เวลาไม่นาน กลุ่มปฏิบัติงานของ คุเสะ ฮิบิกิ ก็สามารถจัดการกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ของเถื่อนได้อย่างรวดเร็ว
รองเท้าบูทเหยียบขยี้โทรศัพท์ที่เปิดใช้งานทิ้งไว้ ดวงตาสีฟ้าใสมองสิ่งที่อยู่ใต้เท้าตนเองอย่างไร้ความรู้สึกจนน่าขนลุก
เรียบร้อยแล้วครับ
ผินหน้ากลับมาแย้มยิ้มสดใสให้กับสมาชิกในทีมที่ดูเหมือนจะสะดุ้งกันไปเป็นแถบๆ กับการปรับตัวทางอารมณ์เวลาการต่อสู้ที่ดูเหมือนจะเด็ดขาดกว่าปกติ กับเวลาที่หันหน้าเข้าหาพวกพ้อง--- ที่คืนนี้ดูเหมือนเด็กหนุ่มมักจะพกรอยยิ้มหวาน และน้ำเสียงสดใสเสมือนกับท้องฟ้าวันนี้อากาศดี มีสายรุ้งสวยๆ ลอยคว้างอยู่บนอากาศ--- แต่ในอีกมุมมองมันก็ดูหวานซึ้งชวนให้หัวใจคนมองกระตุก---- แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบนั้น มันก็ไม่ใช่รอยยิ้มที่เห็นในสถานการณ์เสี่ยงตายแบบนี้
น่ากลัวเป็นบ้า-------------------------
นั่นอาจเป็นสิ่งที่ใครหลายๆ ที่เฝ้าทำงาน และเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าจับตาดูการเคลื่อนไหวจากในศูนย์บัญชาการคิด แต่กับ โฮซึอิน ยามาโตะ---------------------------
มือซีดกำแน่น หากไม่ได้สวมถุงมือไว้ เล็บคงจิกเข้าไปในเนื้อ
ดวงตาสีอเมทิสหรี่ลง
--------รอยยิ้มนั่น ----------- แม้จะไม่เข้าใจสักเท่าไหร่ แต่---- เขารู้สึกโมโหแทบบ้าเพียงเห็นรอยยิ้มนั่นคลี่อ่อนโยนไปให้คนอื่นๆ และดวงตาเย็นชาเยาะๆ ที่มองมายังกล้องจับภาพ--- ทอแสงจ้าอย่างท้าทาย ราวกับจะสื่อว่า เป็นไง นั่นอีก
พะ ผบ.
แรงกดดันที่แผ่ออกมา แววตาเย็นชาที่ดูเหมือนจะทวีคูณความเย็นและความเดือดจนเกินจุดที่ระดับคนธรรมดาจะรับได้
สถานการณ์เป็นไงบ้าง
ระ เรียบร้อยดีค่ะ ตอนนี้กำลังเรียกเจ้าหน้าที่กลับมา---
ทางนี้เรียบร้อยดีไหม ยามาโตะ ฮิบิกิสาวเท้าเข้ามา ดวงตาจับจ้องแผ่นหลังเหยียดตรงเบื้องหน้า หยุดฝีเท้าก่อนจะก้าวถึงตัวยามาโตะ คลี่ยิ้มบางๆ แบบที่พาให้ใครหลายๆ คนใจสั่น------------
ยามาโตะถามโดยไม่คิดหันกลับมามอง เทเลพอร์ตมางั้นเหรอ ไม่มีทางที่การเดินทางธรรมดาจะมาถึงเร็วแบบนี้
ใช่ ฮิบิกิโคลงหัว งึมงำเพลงในลำคอเบาๆ สะดวกดีเนอะ ว่าไหม
ยามาโตะหันกลับมามองใบหน้าเปื้อนยิ้มที่ไม่รู้ทำไม เขาอยากจะสั่งให้อีกฝ่ายหุบยิ้มกวนประสาท ความรู้สึกรุนแรงนี้พาให้เด็กหนุ่มเสียการควบคุม หลุดกระชากเสียงห้วน คิดจะทำอะไรของนาย ฮิบิกิ
คนโดนถามโคลงหัวน้อยๆ และถามกลับด้วยรอยยิ้ม----- หวานหยด-----
แม้รอยยิ้มจะส่งไม่ถึงดวงตาก็ตาม---------------------------
แล้วผมทำอะไรผิดงั้นเหรอครับ ผมมั่นใจว่าผมทุ่มกำลังกับงานสุดตัว ทั้งเรื่องการโจมตี ป้องกัน และกลุ่มของผมยังเป็นกลุ่มที่ใช้เวลาในการทำงานน้อยที่สุดอีกด้วย หรือ ท่าน จะบอกว่าผมพูดผิดหรือครับ 'ท่านผบ.' สรรพนามการเรียกที่เปลี่ยนไป ทำให้ยามาโตะหน้าหงิก
ไม่กลัวตายซะแล้ว-----------
หลายๆ คนทำได้แต่คิดอย่างรึกเกรงๆ ลอบกลืนน้ำลายหนืดคอ--- นี่ขนาดแค่ฟังยังรู้สึกอึดอัดขนาดนี้ ถ้าไปยืนอยู่ใกล้ๆ--- อาจประสาทแตกวิ่งหนีไปเลยก็ได้
นาย---- พูดจาเล่นลิ้นกับฉันเหรอ
ไม่แน่นอนครับ 'ท่านยามาโตะ' 
เหอะ
ร่างในชุดของผู้บัญชาการสูงสุดก้าวเข้ามาอยู่ในระยะประชิด วงหน้าเย็นชาโน้มเข้าใกล้จนปลายจมูกชิดกัน กลิ่นกรุ่นหวานลอยแตะเบาๆ------- ยามาโตะมั่นใจมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามันคือ กลิ่นสาเก--------------- 
เมาอยู่จริงๆ ด้วย----------------
ถึงยามาโตะจะได้รับการฟูมฟักมาเป็นอย่างดี แต่เขามักเห็นตัวอย่างพวกคนดื่มของมึนเมาและชอบทำตัวมั่วซั้วเละเถะ ไม่เป็นงานเป็นการอยู่บ่อยๆ ดังนั้นในตอนแรกที่ฟูมิบอกกับเขาว่าฮิบิกิเมา ยามาโตะก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง สังเกตจากลักษณะการเคลื่อนไหวและปัจจัยหลายๆ อย่างทำให้ยามาโตะรู้สึกเชื่อไม่ลง แต่จากนิสัยที่เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน ทั้งความเยือกเย็น เด็ดขาด และความกวนประสาทที่เพิ่มขึ้นชวนให้อารมณ์เสียจนแทบคลั่งนี่ ถ้าไม่โทษว่าเป็นผลจากฤทธิ์ของมึนเมา ยามาโตะก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะอธิบายความเปลี่ยนแปลงนี้ยังไง
รอยยิ้มเย้ยเล็กๆ ขยับที่มุมปาก ไม่คิดเลยว่าเวลานายเมา นายจะทำตัวได้ไร้สาระเหมือนเด็---
ปึก! คอเสื้อถูกกระชากดึงรั้งลงอย่างแรง ช่วงเอวของยามาโตะจะกระแทกกับราวกั้นเหล็กอย่างแรงเมื่อถูกผลักไปกระแทกด้านหลัง ดวงตาสีฟ้าเย็นชาทอแสงเรืองราวกับมีเพลิงสะบัดบ้าคลั่ง
นายต่างหากที่ เด็ก โฮซึอิน ยามาโตะ!”
เป็นเรื่องแล้วไง------!!
มาโคโตะลุกขึ้น หยิบโทรศัพท์เตรียมเรียกปีศาจอัญเชิญ คุเสะ ฮิบิกิ ปล่อยมือจากท่านผบ.ซะ
“ไม่ต้องยุ่ง มาโคโตะ” ยามาโตะใช้สองมือจับข้อมือทั้งสองข้างของฮิบิกิเอาไว้---- ตามุ่งมองเข้าไปภายในกระทั่งพบแววสั่นไหวในดวงตา--------
ยามาโตะพูดด้วยน้ำเสียงสงบ
"ตื่น'' รึยัง---?"
คำพูดของยามาโตะทำให้ร่างกายที่ร้อนผ่าวของฮิบิกิแปรเปลี่ยนเป็นเย็นเฉียบ เพิ่งตระหนักได้ว่าตนกำลังเผยความอ่อนแอให้คนตรงหน้าเห็น
เด็กหนุ่มปิดตาลง ระงับจังหวะหายใจรุนแรง ด้วยฤทธิ์เมามายเขาไม่อาจควบคุมอารมณ์ภายในได้เลย มือค่อยๆ ผละออกจากคอเสื้อของร่างสูงกว่า แต่มือยามาโตะยังไม่ยอมปล่อยจากข้อมือของเขา  
พูดออกมา ฮิบิกิ คำพูดที่เอ่ยออกมาไม่ได้เป็นคำสั่ง หรือคำขอ เป็นอะไรที่เรียบง่ายอย่างคำพูดธรรมดา
ฉันรอฟังอยู่
รอฟัง--- งั้นเหรอ-----?
ฮิบิกิก้มหัว มือปล่อยทิ้งลงข้างกายยังคงถูกยามาโตะกุมไว้หลวมๆ
ฮิบิกิพูดเสียงเบา มีแต่เขากับยามาโตะเท่านั้นที่ได้ยิน ฉันไม่ชอบเลย ยามาโตะ------- การเห็นนายพูดเหมือนคนเป็นหมากไว้ใช้งานแล้วเดี๋ยวก็ทิ้งแบบนั้น--- ฉันไม่ชอบมันเลย
พอเห็นยามาโตะพูดอะไรแบบนั้นด้วยสีหน้าเฉยเมย ฮิบิกิจะนึกถึงสิ่งที่อัลคอร์เคยพูด ถึงเรื่องราวสมัยเด็กของยามาโตะ ถึงภาระต้องแบกรับน้ำหนักแสนหนักอึ้ง------------
เพียงแค่ความคิด ก็ทำให้ฮิบิกิโศกเศร้า
ตาสีอเมทิสก้มมองผมสีดำยุ่งๆ อย่างนิ่งงัน ถ้านายหมายถึงเรื่องคืนนี้----- ฉันคงต้องฏิเสธ
ถึงแม้ทัศนคติที่มีต่อโลกใบนี้จะเปลี่ยนไป แต่มุมมองชีวิตประจำวันของยามาโตะก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปด้วย การถูกหล่อหลอมให้มีชีวิตรอดท่ามกลางผู้คนเห็นแก่ตัว สนใจแต่ผลประโยชน์ มาตลอดทั้งชีวิต จะให้มาเปลี่ยนกะทันหันก็คงเป็นไปไม่ได้
ถ้าอย่างนั้น---- ก็อย่าพูดเหมือนกับไม่สนใจตัวเองอีก
เพราะฮิบิกิก้มหน้าอยู่ ยามาโตะจึงไม่เห็นตาที่ปิดแน่น ริมฝีปากบางเม้มเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์สั่นไหวในอกซ้าย ทั้งๆ ที่อุตสาห์กลับมาเพื่อเปลี่ยนทุกอย่างแท้ๆ แต่เอาเข้าจริง นายไม่เปลี่ยนไปเลย ถึงจะรับฟังสิ่งที่ฉันพูด แต่นายก็ยังหยุดนิ่งอยู่กับที่---- ยามาโตะ ในวันตัดสินครั้งนั้นที่ฉันบอกว่า พอ ก็คือ พอ-------- อย่าทำคนเดียวมากกว่านี้ ถ้าเหนื่อยก็พัก ถ้าไม่ไหวก็หยุด พึ่งคนอื่นบ้าง พึ่งคุณมาโคโตะ คุณฟูมิ หรือฉันก็ได้-------------------หัวก้มต่ำขยับขึ้นอิงไหล่กว้างเล็กน้อย "คิดว่าตัวเองอยู่คนเดียวหรือไงกัน----"
"..."
ฉันไม่รู้ว่าเพราะนายมัน ดื้อ หรือยังไง----- แต่จริงๆ แล้ว ฉันก็แค่อยากให้นายเห็นแก่ตัวมากกว่านี้ ก็คงดี
ให้ยามาโตะทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง ให้ยามาโตะได้มีความรู้สึกนิดคิดอย่างที่ 'เด็กธรรมดา' ควรจะมี
จะได้ไม่ต้องรู้สึกห่วงมากมายจนพาลหงุดหงิดงี่เง่าแบบนี้-------------------
ไร้เดียงสาจริงๆ
ยามาโตะเชื่อว่าสิ่งที่ทำให้มนุษย์ยังคงความเป็นมนุษย์คือกฎระเบียบที่อยู่เหนือความรู้สึกนึกคิด แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่เข้าใจสิ่งที่ฮิบิกิต้องการจะสื่อ ความรู้สึกเห็นแก่ตัวคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์อ่อนแอ บางครั้งการตัดขาดความรู้สึกออกก็เป็นเรื่องที่จำเป็น
มนุษย์ทุกคนมีความเห็นแก่ตัว ยามาโตะ------ และถ้าตัดความรู้สึกทั้งหมดออกไปได้จริง นายคงไม่ทำหน้าเหมือนอยากจะบีบคอฉันหรอก-----
ถ้างั้น ความเห็นแก่ตัวของนายคืออะไร ในเมื่อฮิบิกิเป็นคนพูดเองว่าอยากให้เขาเห็นแก่ตัว ยามาโตะเลยสงสัยว่าสิ่งที่เรียกว่าความเห็นแก่ตัวของฮิบิกิมันอยู่ในรูปแบบมุมมองไหน
นิ่งชะงักไปเพียงสามวินาที ก่อนเอ่ย คือโลกที่เป็นอย่างทุกวันนี้--- โลกที่จะต้องเป็นโลก แต่ต้องไม่เป็นโลกที่หยุดนิ่ง โลกที่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนด้วยการก้าวเดินไปพร้อมกัน------------------
ยามาโตะกระตุกยิ้ม ตาฉายแสงอ่อนลงเพียงเล็กน้อย
นั่นไม่ได้เรียกว่าเห็นแก่ตัว ฮิบิกิ
ฮิบิกิหัวเราะเบาๆ ก็ถูกของนาย
อารมณ์ดีขึ้นแล้วสินะ
มากเลยล่ะ ฮิบิกิเงยหัวขึ้น ใบหน้าปราศจากรอยยิ้มกวนประสาทจากแรงอารมณ์ -----------------สร่างเมา แล้วกลับมาเป็นฮิบิกิของเขาคนเดิมแล้ว
ถ้างั้นก็ดี ยามาโตะปล่อยมือที่กุมข้อมือของฮิบิกิ ไปพักซะ นายคงเหนื่อยแล้ว
แล้วนาย----
ช่วงนี้มาโคโตะต้องอยู่เวรแทนฉันที่ไปประชุม---- คืนพรุ่งนี้นายอยู่เวรกับฉันก็ได้ ยามาโตะเบือนหน้าไปอีกทาง เลยไม่ทันได้เห็นสายตาที่มองตรงมาของฮิบิกิ ตอนนี้ นายควรจะ---
ยามาโตะ
เสียงที่ใช้เรียกที่แตกต่างจากทุกครั้งทำให้ยามาโตะต้องหันกลับไป เห็นวงหน้าน่ามองขยับเข้าใกล้ห่างกันเพียงหนึ่งลมหายใจกั้นในระดับเดียวกันเพราะฝ่ามือที่ถ่ายน้ำหนักหัวไหล่ของร่างที่สูงกว่าเพื่อพยุงตัว
ชั่ววินาทีนี้ ยามาโตะสามารถนับได้แม้กระทั่งจำนวนขนตาที่เรียงจับตัวเป็นแพสวย เห็นชัดถึงประกายแสงวาวในตาสีฟ้าใส และกลีบปากสีเนื้อที่ยามาโตะคิดว่ามันจะขยับเป็นรอยยิ้มกว้าง แต่กลับกลายเป็น— แลบลิ้นนิดๆ
?!!
ยามาโตะเบิกตากว้าง ตัวแข็งทื่อ ตกใจจนพูดไม่ออก
ฮิบิกิมองสีหน้าตกตะลึงของยามาโตะอย่างพึงพอใจยิ้มร้ายกาจ เขย่งปลายเท้า จงใจให้ริมฝีปากแตะเฉียดใบหู และกระซิบเสียงพร่า----------- แบบที่ทำให้ยามาโตะมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าฮิบิกิยัง เมา อยู่แน่
ตกใจล่ะซี่ J”

.+..+..+..+..+..+..+..+..+.

หกโมงครึ่ง
โอ๊ย
ปวดหัวชะมัด------------ -------------
คุเสะ ฮิบิกิ
อา เสียงนี้-------------- คุณมาโคโตะ ฮิบิกิกุมขมับ มองหญิงสาวอย่างมึนๆ หลังจากใช้เวลาประมาณสองวิในการประมวลว่านี่คือเสียงของใคร อรุณสวัสดิ์ครับ
ท่าทางเธอไม่ดีเลยนะ--------------- สีหน้าแดงก่ำเล็กๆ แต่บางส่วนของร่างกายกลับซีดเผือกอย่างน่ากลัว------- น่าจะพูดใหม่ว่า อาการไม่ดีมากๆ เลยล่ะ
ฮิบิกิพยักหน้า ปวดหัวตุบๆ เลยครับ สาเหตุก็คงไม่พ้นของสาเกรสเลิศที่ร้านเฒ่าแก่----- ฮิบิกิจำได้ว่าตนเองดื่มไปเยอะใช้ได้เลย
ไปหายากินแก้เมาที่ห้องพยาบาลสิ เผื่อจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น คำแนะนำที่ไม่ต่างจากการชี้ทางสว่างทำให้ฮิบิกิฉีกยิ้มกว้าง บอกขอบคุณมาโคโตะหลายครั้ง หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักที่มาโคโตะจงใจให้ฮิบิกิเดินเข้าไป ด้วยมั่นใจมากกว่าล้านเปอร์เซ็นต์ว่าทันทีที่นางพยาบาลเห็นสภาพเมาค้างของฮิบิกิ จะไม่มีทางปล่อยให้เด็กหนุ่มกินยาแล้วเดินหนีไปง่ายๆ แน่
จะว่าไป-----------------
เมื่อคืน--------- เธอจำได้ใช่ไหมว่าทำอะไรกับผบ.
หือ----? ฮิบิกิที่กำลังเตรียมเดินไปที่ห้องพยาบาลหยุดฝีเท้า หันหน้ากลับมามองมาโคโตะอย่างงุนงง เมื่อคืนนี้------ ผมได้เจอยามาโตะด้วยหรือครับไม่ยักจะจำได้เลยสักนิด
มาโคโตะเพยอปาก ตกใจมากกับคำตอบที่ได้รับ นี่------ จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ
ไม่เลยครับ ฮิบิกิตอบออกไปตรงๆ
เกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนงั้นหรือ-------------?
หญิงสาวทำหน้าเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ก่อนล้มเลิกไปเมื่อเห็นสีหน้างงงวยของฮิบิกิ------ ซึ่งหญิงสาวก็รู้ว่าต่อให้พูดอธิบายอะไรไปค่ามันก็คงไม่ต่างจากเดิม ดังนั้น--------- ปล่อยมันไปก็คงไม่มีปัญหา
ช่างมันเถอะ----- ผบ.เขาคงไม่เก็บมาใส่ใจหรอก-------------------------------
....................................................................
........................................
...................
...
.
เจ็ดโมง
บ้าเอ๊ย
ไม่ได้นอนจนได้
เปิดตาอย่างกล้ำกลืนฝืนทน และลุกขึ้นจากเตียง จัดการอาบน้ำ แต่งตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย
เงาสะท้อนที่สะท้อนภาพในกระจกแบบเต็มบานในห้องน้ำฉายภาพตัวตนของเขาแก่สายตา ร่างโปร่งสูง วงหน้าได้รูปเย็นชา ผิวสีซีดอย่างคนไม่ค่อยโดนแดด ดวงตาสีอเมทิสติดเย็นที่ครั้งนี้กำลังมีไอกรุ่นโกรธติดค้างอยู่ภายใน
เขากำลังโกรธ-------- แต่เขาไม่ได้ใครอื่น--- แต่กำลังโกรธตนเอง
โฮซึอิน ยามาโตะมองลึกเข้าไปในตาสีของตนผ่านการสะท้อนของกระจก
สีตาเย็นชา ดูหยิ่งทะนง อันตราย ไม่น่าเข้าใกล้ มีแต่ผู้คนเกรงกลัว--------
ทั้งๆ ที่เป็นแบบนั้น แต่หมอนั่นกลับ--------------
........................................
...................
...
.
ตกใจล่ะซี่ J”
ใช้เวลาเกือบประมาณห้าวินาทีกว่ายามาโตะจะหาเสียงตัวเองเจอ ทำอะไร
คนเมาปล่อยมือจากไหล่ยามาโตะ กลับมายืนอยู่ในระดับส่วนสูงปกติ ตาเริ่มฉ่ำเยิ้มนิดๆ "ก็-- แกล้งไง
แกล้ง?
ใช่ ฮิบิกิยิ้มกว้างแบบทีปกติไม่เคยเห็น---- ก็เมานี่เนอะ ปกติฉันไม่ชอบแกล้งใครสักเท่าไหร่---- แต่แกล้งยามาโตะมันสนุกดี
.... คราวนี้ยามาโตะไม่คิดจะเก็บงำสีหน้าบูดบึ้งของตนเองเลยสักนิด ครั้นจะพูดต่อว่าก็ชะงักกับปลายนิ้วร้อนที่ยื่นแตะที่แผลบนโหนกแก้มเบาๆ ทั้งยังถูกโดนสวนด้วยประโยคที่ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนในห้องพากันสำลักอากาศ ส่วนคนถูกกล่าวถึง-----
น่ารักดี---
“!!!”
.
...
...................
ยามาโตะเสยผม หลับตาที่กระตุกถี่ยิกๆ และย้ำกับตัวเอง พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่กัดฟันกรอด
หมอนั่น-------- ก็เป็นได้แค่ ฮิบิกิ เท่านั้น

.+..+..+..+..+..+..+..+..+.

ในห้องส่วนตัวของด็อกเตอร์ คันโนะ ฟูมิ เช้านี้ เสียงหัวเราะดังก้องเป็นระยะๆ
โฮะๆๆ
หัวเราะอะไรมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ฟูมิ มาโคโตะพยายามชะโงกหน้ามองหน้าจอที่พักๆ ฟูมิต้องระเบิดหัวเราะออกมาทุกครั้งที่ได้เห็น มันคืออะไรหรือ
อา นี่น่ะเหรอ ฟูมิไม่ตอบ เพียงท้าวคางกับโต๊ะ มอภาพ ที่เมื่อวาน เธอได้แอบใช้กล้องวงจรปิดจับภาพและเสียงไว้ทั้งหมด หญิงสาวคลี่ยิ้มกว้างกับรูปที่เธอคิดว่า 'นี่แหละ เด็ดสุดๆ'
ก็--- แค่ภาพธรรมดา J”
เป็นภาพของท่านผบ.ที่เคารพรักถอยหลังผงะ ริมฝีปากเผยอค้าง สีหน้าไม่เก็บงำถึงความตกใจแบบสุดๆ ถ้าจะให้บรรยายรูปนี้ล่ะก็--- คงเป็น--------------- ช็อคจัดจนพูดไม่ออกเลยแม้แต่คำเดียว~

.+..+..+..+..+..+..+..+..+.

ส่งท้าย----------------------
เอ่อ ฉันขอน้ำเปล่าได้ไหม เล่นให้เขาดื่มนมอย่างเดียว ถึงเขาจะชอบนมมากเท่าไหร่ แต่การขาดน้ำสะอาดดื่มก็ทำให้ฮิบิกิรู้สึกทรมานมากเหมือนกันนะ
แต่ยามาโตะที่นั่งอยู่ที่สุดปลายโต๊ะอาหารกลับปลายตามองเขาอย่างเย็นชา แย้งเสียงห้วน
“--------กินนมไปนั่นแหละดีแล้ว”
พร้อมยกน้ำเปล่าขึ้นดื่มให้ฮิบิกิที่มองอยู่รู้สึกคอแห้งผากไปหมด พอดื่มหมดก็กระแทกแก้วดังปึง-----
แต่---
นายบอกเองไม่ใช่หรือว่ายอมกินนมเป็นลิตรแทนยังดีกว่า
ก็ใช่--- แต่นี่มันคนละกรณีกันนี่น่า
หึ
เฮ้อ อารมณ์บูดแต่เช้าเลยนะ ยามาโตะ เป็นครั้งแรกระหว่างกินข้าวที่ฮิบิกิเกือบยกมือขึ้นกุมขมับ ไปโกรธอะไรมาเนี่ย
มาโคโตะได้แต่มองฮิบิกิอย่างนึกสงสารจับใจให้สัญญากับตัวเองว่าต่อจากนี้ไม่ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง ไม่ว่าฮิบิกิจะยกข้ออ้างไหนขอไปดื่มกับเธอ เธอจะไม่ยอมให้เขามาด้วยเด็ดขาด ส่วนฟูมิ---- ยิ้มสมใจกับรสชาติอาหารที่ดูเหมือนวันนี้จะอร่อยกว่าวันอื่นๆ อาจเป็นเพราะ---- อาหารดีแล้ว--- แถมได้เห็นเรื่องชวนอารมณ์ดี(?) อีก

[End]
-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/

แรงบันดาลใจสำหรับตอนพิเศษ 'เมาแล้วยั่ว(สไตล์ร่ม?)' มาจากภาพด้านบนฮะ (ฮา)
อารมณ์ที่เห็นรูปตอนแรกก็แบบ เฮ้ย ถ้าฮิบิกิทำอะไรแบบนี้ได้ก็โคตรเจ๋งเลย
แต่พอลองมาคิดว่าคนอย่างฮิบิกิเนี่ย นะจะทำอะไรแบบนี้ได้? มันก็มีความคิดว่า ไม่ใช่วะ
แต่--- ถ้าฮิบิกิแบบหลุดมาดนี่ก็คนละเรื่องกันเนอะ เลยคลอดออกมาเป็นตอนนี้เลยฮะ

ถือซะว่าเป็นบทแก้เครียดก่อนเข้าเนื้อเรื่องหลักกันเนอะ
คือ เนื้อเรื่องหลักตอนนี้เข้มข้นมากจนร่มที่แต่งเองยังรู้สึกตกกะใจ (มากๆ)
แบบว่า--- ตอนแรกกะจะแต่งเป็นตอนสั้นๆ ให้เรื่องมันใสๆ ช็อตสู้ใสๆ
ไม่มีเนื้อหาสาระอะไร นอกจากความหวานมุ้งมิ้งๆ ระดับ EXTREME
เอาให้น้ำเน่าพอๆ หรือไม่ก็ยิ่งกว่านางเอกพระเอกละครไทยไปเลย
แต่ไปๆ มาๆ---- พอมาลองอ่านของตัวเองซ้ำ
------ ที่ตรูพิมพ์มาทั้งหมดนี่มันคืออะไรฟระ
(ความใสมุ้งมิ้งบรรยากาศชมพูในจินตนาการมันหายไปไหนหมดฟระ! เลย ฮือออ)

ไว้เจอกันตอนหน้า Wednesday of Silence (1) นะฮะ
An Umbrella