+..+..+..+..+..+..+..+..+..+..+..+..+..+..+..+..+..+..+..+..+..+..+..+..+..+..+...+..+..+..+.
③
火曜日
Tuesday
of Disorder
-ว้า โดนเล่นงานซะแล้ว!-
เซเลอร์มูนตัวจิ๋วกระโดดงอแง -ลองใหม่ๆ!-
“ไม่ได้
ฉันต้องรีบไปตามนัดแล้ว ขืนสายขึ้นมามันจะดูไม่ดี”
-แต่ว่า------------
อย่างนี้ฝั่งเราก็เสียโอกาสดีๆ ไปน่ะเซ่!-
“ไม่เป็นไรหรอก” ตอบพร้อมใส่เสื้อตัวใหม่เอี่ยม ใบหน้ารกเส้นผมถูกเสยขึ้น
เมื่ออยู่ตรงหน้ากระจก เขาสามารถเห็นเงาสะท้อนของเด็กหนุ่มร่างโปร่งบาง
ผมสีน้ำตาลแดงเข้มเสยขึ้น ดวงตาเฉกเช่นเดียวกับเส้นผม ใบหน้าประดับยิ้มหล่อๆ
เรียกเสียงกรี๊ดร้องจากสาวๆ
“ฉันเองก็ต้องยอมรับจริงๆ
ว่า ‘หยอก’ พวกวายร้ายมากเกินไปหน่อย
ก็เลยโดนสวนกลับมาแบบนี้ แต่----- น่า
-------ยังมีโอกาสอีกเยอะแยะให้ตอบโต้เจ้าพวกตัวร้ายที่อ้างตัวเป็นผู้ผดุงความยุติธรรม
อีกอย่าง---------------แค่โดนเล่นงานนิดหน่อย ถึงจะเสียกำลังพลไปบ้าง
แต่สำหรับฉัน มันยังไม่ถึงขั้น ‘เลวร้าย’ หรอก”
ต้องถือเป็นโชคดีที่เขาใช้ ‘ฐานทัพลับในเขตชินจูกุ’
เป็นเกราะหน้าสำหรับรองรับผลกระทบ ไม่อย่างนั้น
คงโดนโปรแกรมไวรัสของฝั่งตัวร้ายเล่นงานจนได้ร้องไห้โฮแน่ๆ แต่ว่า---
นั่นก็มีความเป็นไปได้สูงว่าอีกฝ่ายจะรู้ตำแหน่งของทุกฐานลับหลักๆ ในชินจูกุ
ดีไม่ดี ถ้าฝั่งนั้นมีแฮ็กเกอร์ที่มีฝีมือทัดเทียมกับเขา
อาจจะเจาะไปถึงระบบพื้นฐานแล้วกวาดข้อมือที่ระบุตำแหน่งทุกฐานลับบนดินเลยก็ได้
ซึ่งหมายความว่า--------------
หากโดนเล่นกลับแบบนี้ ‘อีกครั้ง’
เขาก็ไม่มีสิทธิ์จะแก้ตัวได้อีกแล้ว
เด็กหนุ่มกลั้วหัวเราะ “แต่----- ฝั่งนั้นก็เล่นแรงเกินไปจริงๆ นะ-----------
ทำลายติดต่อสื่อสารทั้งหมดในเขตชินจูกุล่มไปเป็นแถบ”
จะบอกว่าเขา ‘ขี้เล่น’ จนยุฝั่งนั้นขึ้น หรือฝั่งนั้นก็ ‘จริงจัง’ เกินไป จนทุ่มสุดตัวแบบนี้ดี
-เดี๋ยวก็โดนบอสว่าอีกหรอก!- เซเลอร์มูนยู่ปาก -บอสขี้โมโห
ชอบตบตีนิชิตัน ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ทำอะไรไม่เป็นแท้ๆ
คนที่สร้างทุกอย่างขึ้นมาคือนิชิตันต่างหาก!-
เด็กหนุ่มหัวเราะร่า ไม่อนาทรร้อนใจ
“น่าๆ ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายซะหน่อย”
-นิชิตันก็พูดแบบนี้ตลอดง่า!-
หลังจากจัดแนวเนคไทสีดำให้เข้าที่แล้ว
‘นาโอะ นิชิวาระ’ นำผ้าพันคอมาพันคอซ้ำ
บดบังรอยแผลช้ำม่วงที่เกิดจากการถูกฟาดด้วยของแข็ง
ร่างโปร่งหมุนตัวไปทางออก ท่าทางกระฉับกระเฉง
“แน่นอน ---------------- เพราะสำหรับฉัน
โลกใบนี้ไม่มีเรื่องเลวร้ายหรอก-------” นิชิวาระหลับตา มือจัดบล็อกเส้นผมของตนอีกเล็กน้อย
ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มด้วยอารมณ์ที่อ่านไม่ออก
“เพราะตราบใดที่ ‘ฉัน’ ยังไม่พบกับ ‘เขา’-------- ‘โลกใบนี้’
ก็จะยังเป็น ‘โลกใบนี้’ เหมือนเดิม----------------------
เป็นโลก-------
ที่แสนสงบสุข----------------------------------”
ดวงตาคู่นั้นราวกับจะล่องลอยไปไกล
เพื่อค้นหาคำตอบของโชคชะตาที่ยังคงหมุนเดินต่อไปเรื่อย
แม้ในก้นบึ้งของสุดขั้วหัวใจจะคาดหวังว่าคราใดที่ทอดมองไป ณ ปลายเส้นขอบฟ้า
จุดบรรจบระหว่างท้องฟ้าและผืนแผ่นดิน คำตอบที่เขาตามหาจะอยู่ที่นั่น
หากนั่น--------------
ก็เป็นได้เพียงฝันลมๆ แล้งๆ
เพราะไม่ว่าสุดท้าย-------------- ‘พวกเขา’ ก็ต้องได้พบกัน
.+..+..+..+..+..+..+..+..+.
“เอาล่ะ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
คุเสะ ฮิบิกิ”
ฮิบิกิไม่ตอบรับคำพูดของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
เพียงหันไปสั่งพนักงาน “เอานมเย็นที่หนึ่งครับ”
“ได้ค่ะ” พนักงานเสิร์ฟคลี่ยิ้มบาง
“แล้วคุณลูกค้าอีกสองท่านจะรับอะไรไหมคะ”
“อา ฉันขอชาเย็นดีกว่า” ‘อากิเอะ ยูซุรุ’ หรือที่ทุกคนเรียกกันว่า ‘โจ’ ขยิบตาให้สาวๆ เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง
เส้นผมสีชาถูกคลุมด้วยหมวกสีดำ แว่นกันแดดปิดบังดวงตาขี้เล่น “แต่ถ้าได้เธอมานั่งข้างๆ ฉันก็คงไม่ขออะไรมากไปกว่านี้แล้ว” พนักงานสาวยิ้มหวานน้อยๆ ให้กับคำเกี้ยวพาราสี
หากเป็นคนอื่นเธอคงรู้สึกว่าเป็นอะไรที่หยาบคาย แต่กับผู้ชายคนนี้
เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังหยอกเธอเล่นเสียมากกว่า
“ฉันเอากาแฟเย็น”
ชายอีกคนสั่งรายการเสียงเรียบ
“กรุณารอสักครู่นะค่ะ” ลับหลังสาวเสิร์ฟคนสวยเดินห่างจากโต๊ะไป
บรรยากาศรอบข้างกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง
“เธอรู้อยู่แล้วสินะว่าพวกฉันคือใคร คุเสะ ฮิบิกิ” ‘คุริกิ โรนัลโด้’
ชายหนุ่มผิวแทน วงหน้าของลูกครึ่งระหว่างญี่ปุ่นและบราซิลขับเน้นให้วงหน้าดูคมคาย
ใช้ดวงตาจริงจังแฝงแววกดดันเพ่งมองเด็กหนุ่มที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัยตรงหน้าอย่างประเมินค่า
“พวกคุณก็รู้ว่าผมคือใครเหมือนกัน” ฮิบิกิมองไปทางยุซุรุ “พวกคุณจับผมมาทำไม”
“เฮ้ ดูเหมือนพวกเราจับตัวเธอมาหรือเนี่ย” ยุซุรุเอามือแตะอก “พวกเราไม่ใช่แก๊งลักลอบขโมยเด็กหรอกนะ
อีกอย่างเราอุตสาห์พาเธอมาเลี้ยงที่ร้านขนมๆ อร่อยๆ ด้วย แก๊งขโมยเด็กที่ไหนเขาจะทำกัน
ต้องเรียกพวกเราเป็นผู้ใหญ่ใจดีต่างหาก-------------”
“ผู้ใหญ่ใจดีใช้ปืนจี้หัวเด็ก?”
“วาจายอกย้อนกับสีหน้าเย็นชาแบบนั้นมันอะไรกัน
หืม” ยุซุรุใช้หลังมือประคองท้ายทอย
เอนหลังลงพิงกับที่นั่งอย่างผ่อนคลายเกินคาด “จริงๆ ฝ่ายที่เสียหาย
น่าจะเป็นพวกเรามากกว่าเนอะ โรนัลโด้”
....................................................................
........................................
...................
...
ย้อนกลับไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน
“หยุดอยู่นิ่งๆ และตามเรามาซะ คุเสะ ฮิบิกิ”
ปากกระบอกปืนด้านหลังไม่ได้ทำให้ฮิบิกิตื่นตระหนกจนเสียการควบคุมตัว
ตรงกันข้ามเด็กหนุ่มกลับใช้สมองประมวลผลหาทางเอาตัวรอดจากการโจมตีในระยะประชิดอย่างรวดเร็ว ใคร่ทบทวนความรู้ทั้งหมดที่ทาง
JP’s สอนมา------- แต่แน่นอน ยามตกอยู่ในสนามจริง
ทุกข้อมูลและบทเรียนก็ดูเหมือนจะไร้ความหมาย
ต้องพึ่งความสามารถของตนเองเท่านั้น
ฮิบิกิค่อยๆ ยกมือสองข้างขึ้น
ท่าทางเหมือนคนยอมจำนนแต่โดยดี
ร่างที่ยืนอยู่เบื้องหลังยกยิ้ม “ใช่ๆ ตัดสินใจแบบนี้ถูกแล้---ว เหวอ!”
หากชั่วพริบตา เด็กหนุ่มที่ทำท่าจะยอมศิโรราบเมื่อครู่กลับเอนหัวหลบปากกระบอกปืน พร้อมก้าวขยับกายถอยหลังจนประชิดร่างของคนถือปืน ด้วยระยะใกล้เพียงนี้ทำให้ยากต่อการยิงกระสุน
ฮิบิกิใช้ความได้เปรียบในชั่ววินาทีบิดข้อมือที่กำลังถือปืนของอีกฝ่าย จนปืนร่วงไปกองกับพื้น โดยไม่ลืมเตะปืนให้พ้นรัศมีการหยิบจับ
จากนั้นก็จับอีกฝ่ายทุ่มกระแทกพื้นอย่างจัง
ปึก!
"โอ๊ย! มันเจ็บนะ”
ครั้นเห็นใบหน้าคุ้นเคยของชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยร่วมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกันมานอนบ่นโอดครวญอยู่ตรงหน้า
ฮิบิกิรีบยั้งมือ
คุณโจ? มาอยู่ที่นี่ได้ไง
“ปฏิกิริยาไม่เลว”
เสียงทุ้มพร้อมกับการมาเยือนของ คุริกิ โรนัลโด้
ไขกระจ่างทุกความข้องใจของฮิบิกิหมดสิ้น “หน่วยก้านดีไม่น้อย
ถ้าเธอมาทำงานเป็นนักสืบ----- ก็คงมีชื่อเสียงโด่งดังใช่ย่อย”
ฮิบิกิไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ
ท่าทางนิ่งสงบยากจะคาดเดา ไหนจะดวงตาสีฟ้ากระจ่างภายใต้ฮู้ดสีดำที่จ้องเขม็งอย่างเอาเรื่องอีก
โรนัลโด้แค่นยิ้ม ยื่นมือไปด้านหน้า
“เป็นไง สนใจจะคุยกับพวกเราเป็นการส่วนตัวหน่อยไหม
คุเสะ ฮิบิกิ”
..
“เล่นจับฉันทุ่มอย่างไม่ลังเลเลย ทั้งๆ ที่ปืนนั่นเป็นแค่ปืนปลอมแท้ๆ” เห็นยุซุรุบ่นบ่อยๆ แล้ว ฮิบิกิก็เริ่มรู้สึกผิด
“จะเป็นปืนจริงหรือปืนปลอม ยังไงก็ต้องคิดว่าเป็นปืนจริงไว้ก่อนนี่ครับ”
ในการทำงานร่วมกับ JP’s มีหลายครั้งที่ฮิบิกิต้องเผชิญหน้ากับอาชญากร
กลุ่มคนร้าย หรือแม้แต่ประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
การถูกปืนจอหัวแบบนี้หรือการถูกมีดจี้ตัว สำหรับฮิบิกิ มันไม่ใช่ครั้งแรก
และมั่นใจว่าจะไม่มีทางเป็นครั้งสุดท้ายตราบใดที่ยังเลือกจะยืนอยู่บนเส้นทางนี้อยู่
“พวกคุณรู้ได้ไงว่าผมเป็นใคร”
นี่คือสิ่งที่ฮิบิกิสงสัยมากที่สุด
โรนัลโด้ตอบ “เพราะ Box
ลับของฉันที่เธอเปิดเช็คอยู่ทุกวันไงล่ะ”
ฮิบิกิกะพริบตาเล็กน้อย “คุณสามารถตรวจสอบได้ด้วยเหรอครับว่าใครกำลังดู Box ลับอยู่”
“ต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากเพื่อนฉัน--------- เขาเป็นคนที่สร้าง Box
ลับขึ้นมา”
ฮิบิกิพยักหน้านิดๆ ยอมรับอย่างสงบว่าตนเองพลาดท่าไปจนได้ “แบบนี้นี่เอง”
“ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนเข้ามาเปิดดู Box ลับของฉันตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา
แต่เธอก็ไม่ได้นำข้อมูลใน Box ลับไปใช้ในทางที่ไม่ดี--------- ฉันก็เลยปล่อยเธอไป
แต่ก็จับตาดูเธออยู่ห่างๆ มาตลอด ------ และตอนนี้ ฉันอยากรู้ว่าเธอได้รหัส Box ลับนี้มาจากใคร” นอกจากเพื่อนเขาที่เป็นคนสร้าง Box
ลับ โรนัลโด้ไม่เคยบอกให้ใครรู้เรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย
ฮิบิกิมองหน้าโรนัลโด้
เผยยิ้มนิดๆ “ผมได้มาจาก ‘คุณ’ เมื่อหนึ่งปีก่อนครับ”
สถานะของโรนัลโด้ในตอนนี้ดีกว่าครั้งแรกที่พบกันในช่วงเจ็ดวันมาก
ตอนนั้นโรนัลโด้ต้องกระเสือกกระสนหนีการตามล่าของยามาโตะ แต่ ณ เวลานี้ การได้เห็นโรนัลโด้มายืนอยู่ในสถานที่ธรรมดาๆ อย่างร้านขายขนมทั่วไปโดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกใครหมายหัว
ฮิบิกิก็รู้สึกยินดียิ่งนัก-------------
ดีจริงๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่-----------------
คำตอบที่ได้รับ พร้อมรอยยิ้มอันปราศจากการเสแสร้ง ทำให้โรนัลโด้นิ่งอึ้งไปสักพัก ก่อนหัวเราะในลำคอเบาๆ
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าทำไม แต่-------- จู่ๆ ฉันก็รู้สึกเหมือนกับฉันเป็นคนให้รหัสเธอไปเองจริงๆ”
“อ้าว สรุปเป็นยังไงกันเนี่ย โรนัลโด้” ยุซุรุกะพริบตางุนงงเล็กๆ
ท่าทางเหมือนกับเด็กแบบนั้นเรียกเสียงหัวเราะในลำคอนิดๆ จากฮิบิกิ
“ก็ไม่ไงทั้งนั้น”
จบประเด็นเรื่อง Box ลับของโรนัลโด้ ชายหนุ่มท้าวคาง
มองฮิบิกิด้วยสายตาจริงจัง “เธอมาเอาข้อมูลที่ฉันมีสินะ”
“พูดแบบนี้ แสดงว่าคุณเห็นข้อมูลข้างในแล้วสินะครับ”
“ก็ไม่มาก--------------
แต่ก็มากพอที่จะรู้ว่าเธอกำลังทำงานให้กับ ‘ใคร’”
ดวงตาสีฟ้าสั่นไหววูบ เดาได้ทันทีว่า ‘ใคร’ ที่อีกฝ่ายหมายถึงคือเจ้าของดวงตาอันแสนเย่อหยิ่งคนนั้น “รู้เรื่องทั้งหมดของ JP’s แล้วหรือครับ”
ฮิบิกิไม่อยากให้โรนัลโด้มาเกี่ยวพันกับ JP’s อีก โดยเฉพาะในช่วงเวลาแบบนี้ที่ JP’s กำลังปั่นป่วนจากเรื่องปัญหาภายในและภายนอก
“ก็พอคร่าวๆ----- ทั้งวิธีการ
เบื้องหลังเหตุการณ์ประหลาดหลายๆ อย่าง------- พวกเธอคงลำบากกันมาตลอด” โรนัลโด้พูดด้วยสีหน้าลำบากใจ
อย่างคนรู้สึกผิดที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้มาตลอด----
แต่ถ้าเขาได้รู้เบื้องหลังที่แท้จริงยิ่งกว่านี้
ฮิบิกินึกสงสัยว่าโรนัลโด้จะยังทำสีหน้าแบบนี้ได้อยู่อีกไหม “แต่ฉันก็รู้สึกตกใจจริงๆ ที่คนที่เข้ามาแอบดู Box ลับฉันมาตลอดหนึ่งปีคือหนึ่งในเจ้าหน้าหน่วยพิเศษใน
JP’s ด้วย” พูดพลางยิ้มเล็กๆ “ช่างเป็นเรื่องบังเอิญ”
‘บังเอิญ’-------------?
กับคนที่มีอุดมการณ์และหลักการอย่างโรนัลโด้------
จะสามารถพูดคำคำนี้ออกมาด้วยงั้นหรือ ฮิบิกิรู้สึกเหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้อง ครั้นพยายามเรียบเรียงมันกลับเข้าที่
เศษส่วนจิ๊กซอร์ที่เว้าโหว่ในทีแรกก็พุ่งมาปะติปะต่อภาพทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
ฮิบิกิมองตาวาวอย่างเอาเรื่อง “----------- คุณจงใจล่อให้ผมออกที่นี่สินะครับ”
ทั้งเรื่องข้อมูลสุดท้ายที่ได้กล่าวถึง
<โค้ดลับ>------- ทั้งหมดนั้นก็เพื่อล่อให้เขาออกมา
นี่คือ------ ‘กับดัก’
โรนัลโด้มองฮิบิกิอย่างประทับใจ “ใช่แล้วล่ะ”
“เพื่ออะไรครับ”
“ส่วนหนึ่งฉันอยากจะรู้ว่า JP’s หน่วยการป้องกันเขตแดนทางพลังวิญญาณของญี่ปุ่นมีตัวตนอยู่จริงๆ
รึเปล่า------- และถ้าใช่ ฉันจะได้เตือนบอกพวกเธอว่าพวกเธอจะต้องเผชิญหน้ากับอะไรบางอย่าง----
ที่จะไม่ใช่แค่ปัญหาของพวกเธออีกแล้ว” โรนัลโด้กำมือ “ต่อจากนี้ มันจะเป็นปัญหาของพวกเราทุกคน--------------”
"ครับ?"
หมายความว่ายังไง------?
โรนัลโด้ไม่อธิบาย
หากหยิบบางสิ่งออกจากกระเป๋าเสื้อโค้ต “สิ่งนี้คือสิ่งที่ฉันได้มาในคืนที่ถูกทำร้าย”
สิ่งนั้นที่ว่าคือ----- ปริซึมทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าทำจากเหล็กไหลขนาดเท่าหนึ่งฝ่ามือ-----------
?
ฮิบิกิมองสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าอย่างงุนงง แม้ในหัวจะมีคำตอบอยู่ในใจ
“กล่องหรือครับ”
“มันคือกล่องใส่ดิสก์ทั้งยี่สิบสี่แผ่น” โรนัลโด้หมุนกล่องทรงปริซึมยาวและเปิดฝา-------- ตรงจุดฝาเปิดปิดอยู่ตรงช่วงด้านข้างของปริซึมพอดี
เลยทำให้เป็นที่สังเกตยาก ด้านในปริซึมถูกบุด้วยผ้าไหมสีดำ ทำเป็นช่องเล็กๆ
สำหรับเรียงแผ่นดิสต์ทั้งยี่สิบสี่แผ่น----------- “แต่ล่ะแผ่นมีข้อมูลที่แตกต่างกันออกไป
แต่แผ่นที่น่าสนใจที่สุด คือแผ่นนี้” ปลายนิ้วหยิบแผ่นดิสก์สีดำแผ่นเดียวขึ้นมาชูตรงหน้าฮิบิกิ
“มันเป็นแผ่นดิสก์ที่ฉันบอกว่ามันใส่ <โค้ดลับ> อยู่ข้างใน-------- เป็นโค้ดลับที่ทางผู้เชี่ยวชาญของฉันก็ยังแกะความหมายมันไม่ออก
แต่------------ เราเจอลักษณะตัวแปรบางอย่างที่เหมือนกับโค้ดลับนี่กำลังล่อนไปตามอินเทอร์เน็ต”
“ตัวแปรในอินเทอร์เน็ต---
ค่าของอะไรงั้นหรือครับ------?” หากก่อนที่ฮิบิกิจะได้รับคำตอบ
เสียงหวานก็ขัดแทรก
“ทุกท่านค่ะ เครื่องดื่มได้แล้วค่ะ” พนักงานสาวเสิร์ฟเครื่องดื่มทั้งสามลง โค้งตัวให้อย่างอ่อนโยน “ทานให้อร่อยนะคะ”
“ขอบใจนะ คุณหนูสุดสวย” ยุซุรุส่งยิ้มตอบรับเล็กๆ
ก่อนจะวกกลับเข้ามาในวงสนทนาอีกครั้ง “จะว่าไป
เธอยังดูเป็นเด็กวัยรุ่นอยู่เลยนี่เน่อะ อืม น่าจะได้เล่น ‘เกม’ อะไรบ้างสินะ โดยเฉพาะกับเด็กผู้ชาย------
มันเป็นเรื่องที่ห้ามใจกันไม่ได้หรอก----------- จริงม้า”
“ครับ?”
ฮิบิกิมองชายหนุ่มอย่างสับสน ไม่รู้ว่าจากเดิมที่กำลังคุยเรื่องตัวแปรที่ถูกเก็บเป็นข้อมูลลับสุดยอด
สามารถวกมาเรื่องเกมได้ยังไง---?
ยุซุรุพูดเกริ่น “ทำนองว่าค่าตัวแปรนี้มันเกี่ยวกับเกมในมือถือน่ะ----”
“เป็นเกมที่กำลังเตรียมเปิดตัวใหม่และกำลังเป็นข่าวดังในอินเทอร์เน็ต----------
‘เพลย์อิ้ง’ เกม-----” โรนัลโด้ชูรูปโทรศัพท์
เป็นตราสัญลักษณ์วงกลมสีเหลือที่รอยยิ้มอยู่แต่เพียงปากล่าง ด้านล่างมีเขียนไว้ว่า
PLAYING-GAME “เรากำลังคิดว่าเพลย์อิ้งเกมนี้อาจเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ”
“มนุษ----ยชาติ------?”
ฮิบิกิถึงกับไปไม่เป็นกับสิ่งที่ได้ยิน
ยุซุรุเอ็ดเพื่อนสนิท “เฮ้ๆ
ฉันว่านายพูดเรื่องนี้เร็วเกินไปรึเปล่า ต้องให้เด็กมันค่อยๆ คิดตามสิ” โผงผางพูดออกไปตรงๆ จะทำให้ตกใจเสียมากกว่า
“การที่เขาเข้ามาทำงานที่ JP’s ได้ด้วยอายุเท่านี้
แสดงว่าเขาต้องเตรียมใจเผชิญหน้ากับเรื่องแบบนี้ไว้อยู่แล้ว”
โรนัลโด้ยื่นโทรศัพท์ให้ฮิบิกิดูคลิปหนึ่งซึ่งมีความยาวประมาณสามสิบวินาที “เกมเพลย์อิ้งจะเปิดตัวตอนเที่ยงคืนของวันนี้--------
เป็นเกมส์ลึกลับที่ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้สร้าง แต่เมื่อสี่วันก่อน
ทางทีมงานคนสร้างเพิ่งปล่อยโฆษณาเกี่ยวกับรายละเอียดของเกมออกมา”
ฮิบิกิดูโฆษณาตัวอย่าง
สิบห้าวินาทีแรกเป็นเสียงบรรยายความอัศจรรย์ของเกม ----------
สุดแสนจะธรรมดา
หากสิบวินาทีหลัง----------- คือการอัญเชิญปีศาจ!
นี่มันบ้าอะไร?!!
มือขาวชุ่มเหงื่อกุมขอบโต๊ะแน่น ตาจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวในคลิปที่กำลังฉายภาพคนอัญเชิญที่ถูกเรียกว่า
‘เพลย์เยอร์’ กับสัตว์อัญเชิญที่ถูกเรียกว่า
‘มอนสเตอร์’---------------
โดยกระบวนการแล้ว มันเหมือนกับของ JP’s ไม่สิ
หรืออาจจะเหนือกว่าเสียด้วยซ้ำ!
นี่มันอะไรกัน?!
จนช่วงห้าวินาทีสุดท้าย คาแร็กเตอร์ในชุดเจ้าชายผมสีน้ำตาลแดงไหม้สวมหน้ากากปิดหน้าช่วงบนโผล่ขึ้นมา
และก้มโค้งลง
[-แล้วพบกันในวันใหม่ของวันพุธนี้ ทุกๆ
ท่าน----------ขอให้มีความสุข-]
“นี่มัน-----”
“อาจดูเหมือนเป็นเรื่องไร้สาระ”
โรนัลโด้แค่นยิ้ม “แต่ลองคิดดูสิ
หากประชาชนทั่วไปสามารถอัญเชิญปีศาจออกมาได้เหมือนกัน โลกใบนี้จะเกิดอะไรขึ้น” ฮิบิกิหน้าซีดขาว ยามนึกถึงผลกระทบและความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นทั่วทุกสารทิศ
ยุซุรุทำมือเป็นรูปปืน จี้หัวตัวเอง “ก็คงไม่ต่างจากการที่ให้ทุกคนถือปืน
เหลือเพียงแค่สัญญาณเตรียมเหนี่ยวไกเท่านั้น”
ฮิบิกิมือสั่น ในลำคอแห้งผากจนต้องดื่มนมหวานซ้ำเข้าไป “แต่---- มันอาจไม่ใช่อย่างที่พวกเราคิดก็ได้” ตราบใดที่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเพลย์อิ้งเกมสามารถใช้อัญเชิญปีศาจขึ้นมาได้จริงๆ----
“ก็ถูกของเธอ”
ยุซุรุยื่นกระดาษเปล่าชิ้นหนึ่งที่มี <รหัสบางอย่าง> เดียวกันกับ <โค้ดลับ>
ให้ฮิบิกิ “สองสามอาทิตย์ก่อน
ฉันโดนเจ้าพวกที่กำลังก่อความวุ่นวายให้ทาง JP’s ทาบทามให้มาเข้าร่วมกลุ่ม
แต่ฉันปฏิเสธไป แต่-------อย่างน้อยฉันก็ได้ของเล็กของน้อยติดมือมา”
ตาสีฟ้าใสเบิกกว้าง “นี่มัน-----”
“ฐานข้อมูลของแอปที่พวกมันใช้”
ปลายนิ้วดันแว่นกันแดดให้เข้าที่ “เหมือนกับตัว <โค้ดลับ> เลยใช่ไหมล่ะ”
ฮิบิกิกำกระดาษในมือแน่นจนยับยู่
โรนัลโด้ดึงดิสก์ที่มีส่วนของ <โค้ดลับ> “ลองดูนี่เพิ่ม”
ชายหนุ่มนำรูปแบบของ <โค้ดลับ>
ในกระดาษที่ได้มาในคราวแรกมาวางเทียบกับข้อมูลหรือฐานข้อมูลของเกมส์เพลย์อิ้งในโทรศัพท์---------------
และพบว่าสามข้อมูลนี้ มันเหมือนกันราวกับก็อปข้อมูลเดียวกันมา
โค้ดลับ, แอปที่กลุ่มคนที่กำลังต่อกรกับ JP’s ใช้ รวมถึง ฐานข้อมูลจากเพลย์อิ้งเกมส์มีลักษณะการออกแบบเหมือนกันหมด----------------------------------
“โค้ดนี่---------- ‘คือรูปแบบแอปอัญเชิญแบบใหม่’” โรนัลโด้กอดอก “เป็นแอปอัญเชิญปีศาจ
ที่มีพลังสูงกว่าของ JP’s มาก”
ทั้งระบบที่ซับซ้อน รูปแบบแปลนที่ออกแบบมาให้ง่ายต่อการอัญเชิญ------------
แต่อันตรายกว่าเป็นเท่าตัว
ฮิบิกิถึงกับพูดไม่ออก เพียงคำนึงถึงค่าความเสียหายที่จะตามมาหากสิ่งที่โรนัลโด้พูดเป็นความจริงหัวใจแทบหยุดเต้น
และไม่อาจตอบโต้ออกไปได้ เมื่อโรนัลโด้ตอกย้ำเขาด้วยความจริงที่ไม่ต่างจากการผลักเขาลงไปในธารน้ำแข็ง
ปล่อยให้จมดิ่งลึกลงไปในมหาสมุทรสีดำ
“ลองคิดดูนะ คุเสะ ฮิบิกิ
หากคืนนี้เกมส์เพลย์อิ้งเปิดตัวขึ้นมาจริงๆ จะต้องมีคนบริสุทธิ์มากมายต้องตายกี่คน?”
.+..+..+..+..+..+..+..+..+.
เหลือเวลาอีก 4
ชั่วโมง 21 นาทีก่อนจะเช้าวันใหม่
ฮิบิกิยืนอยู่หน้านาฬิกาเรือนใหญ่
ระบบสาธารณูปโภคของชินจูกุทั้งหมดทุกอย่างถูกระงับการใช้งานชั่วคราว
แม้แต่สัญญาณโทรศัพท์ยังไม่มี ทำให้ผู้คนตกอยู่ในความอลหม่าน ทางเจ้าหน้าที่การดูแลความปลอดภัยทั้งหมดในเขตชินจูกุต้องยืนถือลำโพงประกาศให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเรือนจนกว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ตอนนี้ได้
และนี่คือสาเหตุว่าทำไมแม้จะเป็นเวลาเพียงสองทุ่ม ถนนหลักถึงได้ดูเคว้งคว้าง
ปลอดคนยิ่งนัก
ฮิบิกิหยุดอยู่ตรงหน้าทางม้าลาย
เด็กหนุ่มแหงนหน้ามองไฟสัญญาณจราจรที่ถูกปิดทำการ
ไม่มีไฟแดงเหลืองเขียว-----------------------
ครั้นเห็นเสาสัญญาณไฟ ฮิบิกิก็นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ช่วงบ่ายที่ตนได้ประสบเหตุเสี่ยงตาย
แม้ฮิบิกิจะพยายามแง่บวกไว้ว่ามันเป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่เมื่อนึกย้อนกลับไปทีแรกที่เจ้าหน้าที่สาวได้เอ่ยเตือนเขาก่อนล่วงหน้าสักสองสามวิ
แสดงว่าหล่อนต้องตรวจพบอะไรผิดปกติบางอย่างแน่ และจากที่ได้สอบถามข้อมูลจากพวกโรนัลโด้
ฮิบิกิก็มั่นใจว่าพวกโรนัลโด้ไม่มีส่วนเอี่ยวในเรื่องอุบัติเหตุช่วงตอนกลางวัน
ศีรษะก้มต่ำ
ดวงตาสีฟ้าวาวแสงอย่างคนใช้ความคิด
มีความเป็นไปได้ไหมว่าจะเป็นฝีมือของคนที่กำลังต่อกรกับ
JP’s-----------------------? แต่-----------
ถ้างั้นทำไมพวกนั้นถึงมาเล่นงาน ‘เขา’ ล่ะ----------? เพราะฝั่งนั้นรู้ว่าเขากำลังสืบหาข้อมูลของพวกมันอยู่-------? ก็ไม่น่าใช่
เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริง พวกระดับมือโปรของทางนั้นคงแห่มาหาเขาหมดแล้ว------------------
หรือว่า------------
มีอะไรที่เขามองข้ามไป-------------?
ขณะที่ข้อมูลนับร้อยแปดในหัวกำลังตบตีกันชุลมุน
เสียงกริ๊งจากตู้โทรศัพท์ของฝั่งตรงข้ามเปล่งเสียงลั่น
กรี๊ง---------------------!
ฮิบิกิเงยหน้ามองหาต้นเสียง
ในยามวิกาลที่ระบบการสื่อสารเป็นอัมพาตแบบนี้
ทำไมโทรศัพท์สาธารณะถึงยังใช้การได้อยู่อีก--------?
แล้ว-- ใครเป็นคนโทรมา------------?
กรี๊ง---------------------!
ร่างในฮู้ดสีดำเบิกตากว้างนิดๆ
หรือว่า...
ชื่อที่แล่นวาบเข้ามาในหัวผลักดันให้ฮิบิกิรีบเดินข้ามถนนไปยังตู้โทรศัพท์
มือขวาดันประตูสีแดง ส่วนมือซ้ายก็ยกหูโทรศัพท์ขึ้นแนบ
ไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะถามออกไป
"นั่นนายใช่ไหม
ยามาโตะ---?"
.+..+..+..+..+..+..+..+..+.
ร่างโปร่งของผู้บังคับบัญชาการ JP's
หรี่ตา ยอมรับว่าตนรู้สึกผิดคาดนิดๆ กับคำถามแรกของคนที่ทำให้เขาต้องถ่อมาถึงที่นี่
"ใช่"
//นายติดต่อมาได้ไง//
"นี่ไม่ใช่เวลามาถามคำถามไร้สาระ" ยามาโตะพูด
ขณะจับจ้องยังแผ่นหลังของร่างที่กำลังคุยโทรศัพท์สาธารณะกับเขาบนหน้าจอ "เล่าทุกอย่างที่นายรู้มาเดี๋ยวนี้"
ต่อให้ฮิบิกิอ้างว่าข้อมูลที่ตนรู้มาอาจไม่ถูกต้อง
และต้องการหาข้อมูลสนับสนุนมากกว่านี้ ยามาโตะก็จะพยายามเค้นทุกอย่างที่ฮิบิกิรู้ออกมาให้จงได้
ร่างในฮู้ดระต่ายสีดำกวาดสายไปรอบกาย //-----ฉันไม่มั่นใจว่ามีใครลอบดักฟังหรือเปล่า//
การทำงานกับ JP’s มาหนึ่งปีเต็ม จากประสบการณ์การถูกล่วงรู้ความลับในระหว่างสนทนาอย่างนี้มีให้เห็นเป็นตัวอย่างประจำ
และรู้ด้วยว่ามันอันตรายแค่ไหน และผลลัพธ์ที่เลวร้ายของมันทำให้ฮิบิกินึกลังเล
"ไม่ต้องสนเรื่องอื่น" ยามาโตะไม่อยากเสียเวลามากกว่าไปกว่านี้
เลยพูดสำทับ "ไม่มีใครแอบฟังทั้งนั้น"
เสียงสูดหายใจลึกดังจากฝั่งตรงข้าม //--------ได้//
แล้วเรื่องราวทุกอย่างก็ถูกถ่ายทอดออกมา
ทั้งเรื่อง Box ลับของโรนัลโด้ การขโมยข้อมูลของกลุ่มคนร้ายที่น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มคนปริศนาที่ทาง
JP’s กำลังต่อกรด้วย เรื่องของ <โค้ดลับ> ในแผ่นดิสก์แผ่นสุดท้ายที่มีลักษณะฐานข้อมูลตรงตามแอปอัญเชิญรูปแบบกับแอปเดียวที่กลุ่มคนปริศนากำลังใช้กันอยู่
และมัน--- ยังตรงกับลักษณะของเกมที่ในไม่อีกกี่ชั่วโมงจะเริ่มเปิดให้เล่นกัน
ทุกอย่างล้วนดูรวดเร็วเสียจนคนเล่าเรื่องอย่างฮิบิกิแทบหายใจไม่ออก
มือกำโทรศัพท์กำแน่นจนสั่นเกร็ง
“เหลือเวลาอีกแค่สี่ชั่วโมงเท่านั้น----------------
ยามาโตะ”
ฮิบิกิรู้สึกเหลือเชื่อที่ตนสามารถเรียบเรียงคำพูดทั้งหมดออกมาได้อย่างไม่ติดขัด
อากาศกลางคืนไม่ได้ร้อนจัด แต่ในสถานการณ์วิกฤตแบบนี้ เม็ดเหงื่อไหลออกมาเป็นเส้นอาบกรอบหน้าขาว
//แค่หาฐานทัพของพวกนั้นให้เจอก่อนเวลาก็หมดปัญหาแล้ว----
อย่างนายน่าจะหาได้อยู่แล้วนี่//
คำตอบจากปลายสาย
เรียกรอยยิ้มเจื่อนจากฮิบิกิ “เมื่อชั่วโมงก่อนฉันกับพวกโรนัลโด้ลองไปดูมาหมดแล้ว------
แต่ทั้งหมดเป็นฐานทัพหลอกหมดเลย” หลังจากคุยกับโรนัลโด้เสร็จ
ฮิบิกิกับพวกกลุ่มโรนัลโด้ก็เสียเวลามากกว่าสองสามชั่วโมงในการวิ่งโร่ไปมาระหว่างเขตนู้น
เขตนี้ จนสุดท้ายก็มาตายรังที่เดิม “ศัตรูครั้งนี้เล่นยากกว่าที่เคยเจอ”
//ตัวหมากฝั่งนั่นมีเยอะว่างั้น// สังเกตได้จากน้ำเสียงจากปลายสาย---
ฟังดูอารมณ์ไม่ดีสุดๆ
“มีข้อเสนอไหม”
//ฉันจะให้คนส่งพิกัดใหม่ในชินจูกุทั้งหมดไปให้
ดูในโทรศัพท์เอาเอง// ไม่ลืมย้ำว่า //นายต้องรีบเอาแผ่นดิสก์พวกนั้นมาให้ฉัน----เร็วที่สุด
เข้าใจไหม//
คำพูดเฉยชา ดูไร้เยื่อใย ทำให้ฮิบิกิอดหนักใจไม่ได้
จอมบงการอีกแล้ว-----------------------------------------------------
“เข้าใจแล้ว” แต่ว่าก่อนจะวางสาย ฮิบิกิก็อดถามไม่ได้ “สถานการณ์ทางนั้นโอเคไหม” ที่ฮิบิกิพูดหมายถึง JP's สาขาโตเกียวที่ยามาโตะต้องอยู่ประจำการเป็นแกนกลางหลักที่ยามาโตะ
‘ต้อง’ ประจำการอยู่-----
เสียงฝั่งนั้นเงียบหายไปสักพัก
จนฮิบิกินึกแปลกใจ ครั้นพอจะเอ่ยทัก ยามาโตะก็กล่าวขึ้นมาก่อน
//ดีกว่าที่นายเจอเยอะ// พูดจบ ยามาโตะก็ตัดสายทิ้งไปทันที
ฮิบิกิถอนหายใจโล่งอกกับตนเอง “ก็ดี” -------------
อย่างน้อย JP’s สาขาใหญ่ก็ยังมียามาโตะคอยควบคุมสถานการณ์อยู่------------------------------------------------
ฮิบิกิหยิบโทรศัพท์ เปิดหาข้อมูลที่ถูกส่งมาเป็น
Message ส่วนอีกมือก็กดวิทยุสื่อสารแบบรุ่นเก่าที่ไม่จำเป็นต้องใช้สัญญาณโทรศัพท์ของโรนัลโด้ยกขึ้นแนบสื่อสาร
เขาไม่อยากดึงพวกโรนัลโด้เขามาเกี่ยว---------------
แต่ตอนนี้--- ไม่ใช่เวลามาลังเลแล้ว
เหลืออีกแค่สี่ชั่วโมงเท่านั้น-------
“ผมฮิบิกิครับ
ขอเรียกระดมพลทุกคนเดี๋ยวนี้”
.+..+..+..+..+..+..+..+..+.
กดวางสายไปได้สักพัก
ยามาโตะยังคงยืนนิ่ง ไม่ละสายตาออกจากร่างที่อยู่บนหน้าจอจนกระทั่งอีกฝ่ายเดินลับหายไปในตรอกซอยแห่งหนึ่งแล้วจึงค่อยหมุนตัวกลับ
ร่างสูงสง่าก้าวผ่านร่างผู้บุกรุกหลายคนที่ในตอนนี้อยู่ในปางตาย สายตากดต่ำลงจากองศาปกติ
จับจ้องการต่อสู้ของกลุ่มคนเบื้องล่างที่ดูยังไงฝั่งตรงข้ามก็ไม่มีสิทธิ์จะชนะ ด้วยความต่างชั้นของระดับพลังที่แตกต่างกันมากเกินไป
จวบจนคนสุดท้ายได้ลิ้มรสชาติแห่งความปราชัย
เสียงผู้เป็นนายเอ่ยเรียกขาน
“พอได้แล้ว
เซอร์เบอรัส”
เซอร์เบอรรัสที่กำลังตระกุยปีศาจอัญเชิญผละออกจากเหยื่อ
กลับมายืนตระหง่านเคียงข้างผู้นำตระกูลโฮซึอินอีกครั้ง
ตัวแทนผู้คุม JP's สาขาชินจูกุที่ได้แต่ยืนคุมสถานการณ์อยู่ห่างๆ
กำมือชุ่มเหงื่อแน่น สายตาจับจ้องแผ่นหลังสีดำของเด็กหนุ่มผู้มีอำนาจสูงสุดใน JP's
หักห้ามไม่ได้ที่จะไม่สั่นสะท้านด้วยความพรั่นพรึงกับอำนาจอันไร้ขีดจำกัด
ไม่มีทางเอาชนะได้เลย!
เวลานั้น
ตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวหาได้รับรู้ถึงความคิดของพวกเดียวกันไม่ เด็กหนุ่มใช้มือลูบไล้ไปตามขนนุ่มของเซอร์เบอรัสอย่างชมเชย
เอ่ยสั่งการด้วยเสียงที่ดังก้องเปี่ยมด้วยอำนาจ
“สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกคนกลับมารักษาการอยู่ที่นี่ซะ-------------”
ยามาโตะดึงถุงมือผ้าของตนจนตึง ตาสีอเมทิสทอแสงจรัส “ฉันจะลงสนามเอง”
.+..+..+..+..+..+..+..+..+.
10.59 P.M.
-นิชิตันๆ-
เซเลอร์มูนตัวจ้อยเด้งตัวขึ้นมาด้วยใบหน้างอนตุบป่อง
-ฝั่งเราโดนบุกแล้วนะ ทำไมนิชิตันไม่ทำอะไรเลยล่ะ?!-
"น่าๆ" นิชิวาระตอบเสียงเอื้อยๆ ขณะยิ้มอย่างมีความสุขในห้องมืดที่มีแต่แสงหน้าจอคอมพิวเตอร์นับสิบตัว
"ปล่อยให้ฉันอารมณ์ดีอีกนิดสิ---- อา มีความสุขจังเลยนะ
บ่ายนี้ได้ไปเดทกับนิจจัง-------"
-พวกเซเลอร์เดือดร้อนหมดแล้วนะ!-
"โอเคๆ
ทำงานแล้วจ้า ทำงานแล้วจ้า"
ตอบอย่างเซ็ง พลางไถลเก้าอี้เลื่อนไปฝั่งตรงข้ามของมุมห้อง
ใบหน้าหล่อเหลายื่นเข้าไปใกล้หน้าจอแสดงผล
"อืมมม
โดนเล่นไปไม่ใช่น้อยเลยนะเนี่ย" เด็กหนุ่มเกาหัวแกรกๆ
ค้นพบว่าฐานทัพลับแบบหลอกๆ ของตนถูกทำลายไปหลายสิบที่แล้ว และไหนจะฐานทัพจริงบนดินทั่วทั้งประเทศอีก---
ยับเยินสุดๆ "แค่ไม่กลับมาดูผลไม่กี่ชั่วโมงเอง----- โดนเล่นซะเละเลยนะ"
เซเลอร์มูนโวยเสียงเล็กๆ
-นิชิตันจะเอาไงต่อ
เหลือเวลาอีกชั่วโมงหนึ่ง บางทีฝั่งเราอาจแพ้ก็ได้น้า-
"ใครว่าล่ะ
เซเลอร์จัง"
นิชิวาระมองนาฬิกาข้อมือตัวเอง
พลันมุมปากขยับโค้งเป็นรอยยิ้มดุจจันทร์เสี้ยว
ในจักษุสะท้อนภาพการขยับของเข็มนาฬิกา
"นาฬิกาของฉันมันบอกว่าเหลืออีกแค่
11 นาทีต่างหาก"
ตอนนี้ เวลา 11.00 P.M.
ตอนนี้ เวลา 11.00 P.M.
.+..+..+..+..+..+..+..+..+.
11.04 P.M.
"เป็นไงบ้างครับ"
ฮิบิกิวิ่งเยาะๆ เข้าไปหาโรนัลโด้ กับยุซุรุที่วิ่งหอบจนตัวโยน
"เหนื่อยเป็นบ้าเลย
ต้องวิ่งไปวิ่งมาแบบนี้" ยุซุรุบ่นเสียงระโหยระแหง
"เป็นวัยรุ่นนี่มันน่าอิจฉาจริงๆ นะ------ แต่ก็แอบรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นกลุ่มวายร้ายต้องไปวางระเบิดฐานบัญชาการอยู่แปบหนึ่งเหมือนกันแฮะ"
โรนัลโด้และเพื่อนๆ
ที่ทำหน้าที่เป็นสายสืบลับ รวมถึงยุซุรุ และฮิบิกิได้แบ่งคนออกเป็นกลุ่มย่อยๆ แยกกันกระจายออกไปทำลายฐานทัพของฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ในเขตชินจูกุทั้งหมด
นับเป็นโชคดีมหาศาลที่พวกโรนัลโด้มีอาวุธภัณฑ์อยู่ครบมือ ทั้งระเบิด ปืน มีด ไม่ต่างไปจากกองกำลังใต้ดินเลย
ล่ะ
แต่------ ถ้าจะเห็นว่าจำเป็นจริงๆ
ก็คงต้องชนด้วยแอปอัญเชิญปีศาจเนี่ยล่ะ
“ใช้แอปอัญเชิญปีศาจเนี่ย-----
เหนื่อยสุดๆ ไปเลย--------------------------------”
ยุซุรุที่เพิ่งเคยใช้แอปปีศาจของทาง JP’s ครั้งแรกแทบหมดแรงล้มลงไปคลานกับพื้น
“ถ้าฝืนใช้งานแบบนี้ทั้งวันล่ะก็---- ได้แห้งตายแน่ๆ”
"อย่างน้อยฐานทัพทั้งหมดของศัตรูในเขตชินจูกุพวกเราก็ตามไปเก็บหมดแล้ว"
โรนัลโด้ที่มีสภาพดีกว่ายุซุรุลุกขึ้นยืน "หวังว่าทางฝั่ง JP's
จะไปได้สวย"
ยุซุรุบ่น "เผลอๆ
อาจเก็บหมดแล้วก็ได้มั่ง ฝั่งนู้นมีพวกหัวโจกที่อยู่โตเกียวนี่น่า ถึงจะติดต่อใครไม่ได้
แต่ก็มีแต่พวกตัวท็อปๆ อยู่ที่นั่นกันทั้งนั้น แต่ทางฝั่งเราติดต่อได้แต่ JP's
ที่อยู่ในสาขาชินจูกุอย่างเดียว และกำลังพลที่ออกปฎิบัติการก็เป็นแค่ประชาชน-----!"
"อย่างน้อยก็ดีกว่าติดต่อใครไม่ได้เลยนะครับ"
ฮิบิกิพูดให้กำลังใจ ก่อนนึกเอะใจอะไรบางอย่าง "เมื่อกี้คุณโจบอกว่าตอนนี้
JP's สาขาโตเกียวติดต่อใครไม่ได้หมายความว่าไงครับ" เขาพอทราบเรื่องที่ในตอนนี้เรื่องการคมนาคม
การติดต่อสื่อสารทั้งหมดในเขตชินจูกุถูกระงับการใช้ทั้งหมด แต่ไม่ยักรู้ว่า JP’s สาขาโตเกียวจะเป็นแบบเดียวกันด้วย
แล้วที่เขาคุยอยู่กับยามาโตะล่ะ--------?
"ระบบการสื่อสารทั้งหมดในเขตชินจูกุถูกทำลายไปหมดแล้ว
ทำให้ภายนอกติดต่อเข้ามาไม่ได้ เพราะไม่มีสัญญาณ---- ถ้าจะติดต่อได้
ก็มีแต่ต้องติดต่อผ่านกันทางการติดต่อ JP's ของฝ่ายสาขาชินจูกุเท่านั้น------
ซึ่งก็ทำได้มากสุดคือการติดต่อกับคนใน"
โรนัลโด้เป็นคนตอบ มองฮิบิกิอย่างสงสัย "เมื่อกี้ที่ทาง
JP's ติดต่อมาก็เป็นสาขาในชินจูกุไม่ใช่หรือ?"
“จากโตเกียวน่ะครับ”
“เอ๋ แปลกจัง
หรือว่าทางฝั่งนั้นจะใช้การติดต่อได้แล้ว”
“ทาง JP’s สาขาโตเกียวอาจมีพลังงานสำรองเก็บเอาไว้ก็ได้----
เพราะที่นั่นเปรียบเสมือนเป็นหัวใจของ JP’s เลยนี่
คงหาทางทำอะไรสักอย่างที่จะประคองระบบสื่อสารเอาไว้-----” โรนัลโด้คาดการณ์ได้ถูกต้อง
“แต่------- ไม่ว่าจะยังไง การที่ภายนอกจะติดต่อเข้ามาในเขตชินจูกุได้ก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี”
ฮิบิกินึกไตร่ตรองอยู่เงียบๆ
JP’s ภายนอกทุกเครือข่ายไม่สามารถติดต่อ JP’s สาขาชินจูกิได้-------- แต่ JP’s สาขาชินจูกุยังสามารถติดต่อกับคนในได้
ฮิบิกินิ่งคิด
------------- คงไม่ใช่ว่ายามาโตะมาที่นี่ใช่ไหม?
ไม่สิ---- คนอย่างยามาโตะ
ถ้ารู้ว่าที่นี่จะขาดสัญญาณติดต่อจากโลกภายนอกก็ต้องมาที่นี่เพื่อออกคำสั่งด้วยตัวเองอยู่แล้ว
ถึงแม้จะไม่อยู่ประจำการที่โตเกียว แต่ทางนั้นก็ยังมีคนมีฝีมืออีกตั้งหลายคน
ทั้งคุณมาโคโตะ คุณฟูมิ-------
พอตระหนักได้แบบนั้น
ฮิบิกิก็เริ่มรู้สึกกะวนกะวายใจขึ้นมา
ทำไมถึงทำอะไรเสี่ยงๆ แบบนี้!?
"ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหมครับ"
"ใช่แล้ว"
“ผมจะตามไปสบทบพวก JP’s
ที่สาขาชินจูกุน่ะครับ”
“หืม
เธออยู่กับพวกเราก่อนก็ได้นี่ ไปที่นั่นตอนนี้ ก็คงช่วยอะไรไม่ได้มาก”
“ก็อาจจะใช่------” ตาสีฟ้าหลุบต่ำตวัดขึ้นสบ มั่นคง
“แต่ผมจำเป็นต้องไปครับ”
สายตาแน่วแน่ในดวงตากระจ่างวาว
จนผู้ฟังทั้งสองไม่คิดคัดค้าน
“ขอให้โชคดีนะ”
“ครับ” ฮิบิกิหันมองโรนัลโด้ “แล้วเรื่องดิสก์----------”
“เธอจะเอาไปเลยก็ได้” โรนัลโด้ยื่นกล่องดิสก์ให้ฮิบิกิ “ฉันว่าส่งให้ถึงมือของ
‘หัวหน้า’ ของเธอให้เร็วที่สุด มันน่าจะดีกว่า” แวบหนึ่งที่ฮิบิกินึกถึงเหตุการณ์ช่วงเจ็ดวัน----
เขาจำได้ว่าโรนัลโด้ไม่ชอบหน้ายามาโตะสุดๆ----- เด็กหนุ่มนึกสงสัยว่าถ้าโรนัลโด้กับยามาโตะตอนนี้เจอกันโดยปราศจากความบาดหม่างจะเป็นยังไงกันนะ
“แต่ก็ไม่แน่” ยุซุรุค้าน “อาจมีพวกบุกมาแย่งดิสก์ไปก็ได้
ใครจะรู้”
“นั่นสินะครับ” ฮิบิกิคว้าแผ่นกล่องปริซึมที่ใช้ใส่แผ่นดิสก์
มองมันอย่างพิจารณา พลันบังเกิดความคิดบางอย่าง เด็กหนุ่มเร่งเปิดกล่องปริซึมเหล็ก
เลาะเอาบุดำสำหรับที่ใส่แผ่นดิสก์รวมถึงแผ่นดิสก์ทั้งยี่สิบสี่แผ่นออกมา
แล้วนำไปไว้ในกระติกน้ำของ JP's
ที่ถูกดื่มจนหมดและเหน็บไว้ที่เข็มขัด ส่วนกล่องปริซึมเปล่าๆ
ก็ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อโค้ดสีดำ ทำให้ดูเด่นสะดุดตา------------
เหมาะที่จะใช้เป็นตัวล่ออย่างยิ่ง
โรนัลโด้ถึงกับตะลึงงัน “นี่----- เธอ”
ดิสก์ทั้งหมดยี่สิบสี่แผ่นที่เก็บรักษาความลับสำคัญระดับประเทศ ------
ถูกซ่อนไว้ในกระติกน้ำร้อน-------?
ถ้าเอาไปเล่าให้ใครฟัง คงโดนชี้นิ้วด่ากราดว่าเป็นไอ้บ้าแน่ๆ
ฮิบิกิพูดอย่างไม่มั่นใจ "ถ้าเป็นไปได้----
ผมไม่อยากจะทำแบบนี้ แต่เพราะผมไม่รู้ว่าระหว่างทางจะเกิดอะไรขึ้นอีกรึเปล่า----" ในเวลาเช่นนี้
ฮิบิกิไม่สามารถเชื่อใจในตัวใครได้จริงๆ--------- แม้แต่ตัวเขาเอง
เขายังไม่ค่อยกล้าเชื่อเลยว่าจะทำได้รึเปล่า “ผมจะไม่ยอมให้ใครเอาดิสก์พวกนี้ไปเด็ดขาด”
ข้อมูลเหล่านี้---------
เขาจะนำไปส่งให้ถึงมือยามาโตะเอง สาบานเลย
"ขอฝากทางนี้ด้วยนะครับ"
โรนัลโด้พยักหน้า รับปากหนักแน่น "ไม่ต้องห่วง
ฉันจะรับช่วงต่อเอง"
ฮิบิกิหันหลัง
เตรียมเดินทางไปที่หอคอยของชินจูกุ
“ครั------”
ไม่ทันที่จะพูดจบ
ฮิบิกิชะงักเมื่อรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงฉับพลันในร่างกาย
ตุบ—
ตุบ—!
บางอย่างที่เต้นดังอยู่ในหัว
จังหวะหนักหน่วงทำลายทุกการรับรู้
เช่นเดียวกับความเจ็บปวดมหาศาลที่พุ่งสู่จุดสูงสุดในชั่ววินาที
“อ๊ะ!”
ตาสีฟ้าเบิกโพล่ง มือจับขมับแน่น
ตัวคู้งอ ริมฝีปากเปิดอ้าคล้ายจะกรีดร้อง
แต่สิ่งที่หลุดออกมากลับมีแต่เพียงลมหวิวๆ แผ่วๆ แม้แต่แรงจะกรีดร้องยังไม่มี
-----เอ๊ะ------------------------?
มือขาวยกขึ้นแตะขมับ แม้ตอนนี้มันจะกลับมาอยู่ในระดับปกติแล้ว-----
แต่------- ความเจ็บปวดที่ยังหลงเหลือติดอยู่ในเส้นประสาท ก็ยังไม่เลือนหายไป
ปากเพยอรับอากาศเข้าไปภายในรัวเร็ว
------เมื่อกี้------------------------
มันอะไร-------?
ความสงสัยแผ่กระจายดุจระรอกคลื่นน้ำที่แผ่ขยาย
หากก่อนที่หนองน้ำขุ่นมัวจะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์
การมองเห็นของฮิบิกิก็เริ่มพร่าเลือน การรับรู้ดับวูบไปชั่วขณะ ความกังวลแทรกซึมไปทั่วอณูร่าง
แต่อย่างน้อย ระบบการนึกคิดของฮิบิกิก็ยังทำงานได้อย่างดีเยี่ยม
จากนั้นไม่กี่ชั่วอึดใจ จังหวะหนักหน่วงที่สมองก็กลับมาเล่นงานฮิบิกิซ้ำอีกครั้งหนึ่ง
เสมือนได้ยินเสียงเต้นตุบของเส้นเลือดในสมอง
มันรุนแรงจนฮิบิกิกลั้นเสียงกรีดร้องไม่อยู่
ตุบ—
ตุบ—!
“อั๊ก!” คราวนี้ฮิบิกิประคองตัวเองไม่อยู่ ล้มลงไปกองกับพื้น
หากไม่ติดโรนัลโด้วิ่งเข้ามารับร่างเขาไว้ก่อน
“เป็นอะไรไป คุเสะ
ฮิบิกิ” โรนัลโด้ก้มมองสีหน้าของคนกำลังคู้ตัวกุมศีรษะตนเองแน่น
สายตาปะกับวงหน้าขาวซีดไร้เลือด บิดเบี้ยวอย่างทุกข์ทรมานเพราะอาการปวดหน่วงในศีรษะอย่างรุนแรง
“เฮ้ ไหวรึเปล่า” ยุซุรุเห็นท่าไม่ดี ถามอย่างเป็นห่วง
“เ----จ็บ” ฮิบิกิวางศีรษะที่หนักอึ้งไม่ต่างจากก้อนหินลงบนท่อนแขนของโรนัลโด้
หอบหายใจรวน มือสองข้างยกกุมหัวที่ปวดเนืองๆ “-----------ตาผม---------
มองไม่ค่อยเห็น---------” เหมือนกับมีม่านบางๆ มาบดบัง
ไม่อาจมองเห็นอะไรชัดเจนได้อีกต่อไป---------
“เธอไม่ได้มีอาการป่วยอะไรใช่ไหม” โรนัลโด้ถาม
ฮิบิกิพยายามกะพริบตาปรือๆ
ส่ายหัวนิดๆ “ปะ----- เปล่าครับ”
ตุบ—
กึก—!
“อึก!”
แขนสองข้างเอื้อมไปบีบแขนของโรนัลโด้แน่น
ฮิบิกิกัดฟันกรอด ตาหลับปี๋เพราะพยายามกลั้นเสียงร้องปรือขึ้นอย่างยากเย็น
ครั้นหลุบสายตามองต่ำ ชั่ววูบ ฮิบิกิเห็นว่าส่วนแขนที่ถูกคลุมทับด้วยคลุมสีดำยาวกลับกลายเป็นแขนเปลือยเปล่าปราศ
บนข้อมือของเขา มีนาฬิกาข้อมือแบบที่เป็นเข็มเดินอยู่
และ----------
สิ่งที่ทำให้ฮิบิกิตกใจมากที่สุด กลับเป็นเวลานาฬิกาบนข้อมือของตนนั้น-----
ที่ชี้ชัดให้เห็นว่าอีกสามวินาทีต่อจากนี้ จะกลายเป็นเช้าวันใหม่แล้ว
เสร็จกัน!
หัวใจกระตุกวูบรุนแรง
ความรู้สึกในตอนนี้คงไม่ต่างไปจากตอนที่เห็นโลกทั้งใบถล่มลงมาดังโครมคราว
หูของเด็กหนุ่มดับอื้ออึง
และทันทีที่แนวเข็มสั้นและเข็มยาวของนาฬิกาในจินตนาการขยับมาทับซ้อนกัน
เสียงร้องของโทรศัพท์ทุกเครื่องในญี่ปุ่นก็ดังแจ้งเตือนขึ้นมาพร้อมเพรียง
พอดีที่สติของฮิบิกิจมดิ่งลงไปในความมืดมิดเพราะความเจ็บปวดที่พรากสติเขาให้จมลงไปสู่โลกรัตติกาลที่แม้แต่เสียงเรียกชื่อของโรนัลโด้หรือยุซุรุก็ยังส่งไม่ถึง
เด็กหนุ่มเลยไม่ทันได้เห็นข้อความใหม่ในโทรศัพท์มือถือของตนเอง
ที่เขียนเอาไว้ว่า--------------
.
...
...................
[คุณได้รับหนึ่งข้อความ]
[ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมดาวน์โหลดเพลย์อิ้งเกมส์ของเรา
ยินดีต้อนรับสู่โลกอันแสนวิเศษ]
[เริ่มทำการวัดระดับความสามารถของเพลย์เยอร์--------------
ทำการดาวน์โหลดมอนสเตอร์ของคุณ ------ 0%------ 13%------- 44%---------------------
79%----------------------------92%---------------------------100%---------------อัญเชิญมอนสเตอร์ได้! ☻]
....................................................................
........................................
...................
...
.
TBC
.+..+..+..+..+..+..+..+..+.
ไม่มีอะไรจะพูดนอกจาก 'ใจเย็นๆ นะทุกท่าน' 0rz // อ๊อก (โดนตื้บ)
ตอนหน้าเอาตอนพิเศษคลายเครียดมาเสิร์ฟไปก่อนเนอะ [ไม่มาวันอาทิตย์ก็วันจันทร์นะฮะ]
คำผิดค่ะ
ReplyDeleteเอื้อยๆ >> เอื่อยๆ
นะค่ะ >> นะะ
กรี๊ดดดดดด ฮิบิกิ! เป็นอะไรป๊ายยยยยฮือออ อยากอ่านต่อจังค่ะ!
ตอนนี้ตรงที่ฮิบิกิเห็นนาฬิกาตรงข้อมือดูจะพิมพ์ตกๆหล่นๆนะคะ
ReplyDelete